สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่จังหวัดขอนแก่น

สำนักข่าว: ช่อง NBT
URL: https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG191205100207302
วันที่เผยแพร่: วันที่ 4 ธ.ค. 2562
หน่วยงาน/บุคคลในข่าว :

วันนี้ 4 ธันวาคม  2562 เวลา 8.34 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในการพระราชทานปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ประจำปีการศึกษา 2561 ณ อาคารศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ซึ่งปีนี้ สภามหาวิทยาลัยขอนแก่น ขอพระราชทานทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาทันตแพทยศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงให้ความสำคัญและทรงสนับสนุนพัฒนางานด้านสุขภาพช่องปากเพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพอนามัยที่ดี รวมทั้งทรงส่งเสริมด้านการพัฒนาทันตบุคลากรและวิชาชีพทางทันตแพทยศาสตร์ให้เจริญก้าวหน้ามาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีพระมหากรุณาธิคุณ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หน่วยทันตกรรมพระราชทาน ได้รับการยกระดับเป็นศูนย์ทันตกรรมพระราชทานและทันตกรรมเคลื่อนที่  พระราชทานนามว่า “ศูนย์ทันตกรรมพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” โดยมีคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และคณะทันตแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยต่างๆ หมุนเวียนออกหน่วยทันตกรรมพระราชทานเคลื่อนที่ เพื่อให้บริการด้านทันตสาธารณสุขและทันตสุขศึกษาแก่ประชาชนผู้ด้อยโอกาสและนักเรียนในโรงเรียนโครงการในพระราชดำริ  โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนและโครงการฟื้นฟูต่างๆ ตามพระราชประสงค์ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย 

ในการนี้ พระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์ แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน พระราชทานรางวัลพระธาตุพนมทองคำ รางวัลศิษย์เก่าดีเด่น รางวัลศรีมอดินแดง และรางวัลศรีกาลพฤกษ์ ประจำปี 2562 แก่อาจารย์  ศิษย์เก่า  บุคลากรและนักศึกษาปัจจุบัน รวมจำนวน 5 คน

โดยมีผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ปริญญาโทและปริญญาตรี เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ทั้งในช่วงเช้าและช่วงบ่าย รวมจำนวน 7,998 คน

โอกาสนี้ พระราชทานพระราโชวาท ความสำคัญตอนหนึ่งว่า “บัณฑิตทั้งหลายได้ศึกษาเล่าเรียนมา จนถึงระดับที่เรียกชื่อว่าเป็นการศึกษาชั้นสูงสุดแล้ว แต่ละคนคงจะได้สร้างสมประสบการณ์ ทั้งจากการดำเนินชีวิตและการเล่าเรียนมาพอสมควร ประสบการณ์เหล่านั้น เป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาก เพราะเป็นทั้งข้อมูลและเครื่องมือที่บัณฑิตจะสามารถนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ในการดำเนินชีวิตและประกอบกิจการงานต่อไปได้ แม้แต่ประสบการณ์ที่ไม่น่าพึงพอใจ เช่น ความทุกข์ยากเดือดร้อน ความผิดหวังพลั้งพลาดหรืออุปสรรคปัญหาต่างๆ ก็ยังมีประโยชน์ เพราะเป็นเสมือนบทเรียนที่ช่วยฝึกฝน หล่อหลอมและขัดเกลาบุคคล ให้มีความอดทนเข้มเข็ง มีความมานะพยายาม มีสติรู้ตัว มีปัญญารู้คิดและมีความเข้าใจโลกเข้าใจชีวิตมากขึ้น ซึ่งจะเป็นคุณอย่างยิ่งแก่การดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพการงานในภายหน้า จึงขอให้บัณฑิตได้พิจารณาให้ทราบซึ้ง ถึงคุณค่าของประสบการณ์ทุกอย่างที่ได้ผ่านพบมา แล้วแปรเปลี่ยนประสบการณ์ทั้งนั้นให้เป็นพลังอันกล้าแกร่ง ที่แต่ละคนจะนำไปใช้สร้างสรรค์ความสำเร็จในชีวิตเละกิจการงานสืบไป”

เวลา 15.05 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิด “อาคารวิทยวิภาส” ณ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ได้รับงบประมาณก่อสร้างขึ้นในปี 2559 เพื่อแทน “อาคารวิทยาศาสตร์ 02” หลังเดิมที่ใช้งานมานานกว่า 40 ที่ทรุดโทรมและเพื่อรองรับการขยายตัวและการพัฒนาของคณะวิทยาศาสตร์ในอนาคต โดยอาคารดังกล่าว ใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติงาน การบริหาร การจัดการเรียนการสอน การวิจัยและบริการวิชาการแก่สังคม เพื่อพัฒนาสู่การเป็นคณะวิทยาศาสตร์ชั้นนำในระดับอาเซียนด้านการผลิตบัณฑิตและการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ต่อไป

ตัวอาคารออกแบบตามแนวคิด สภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้คือ มีการนำองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ออกแบบ เพื่อสามารถนำพลังงานธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพและยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานชื่ออาคารมีความหมายว่า อาคารที่เป็นแหล่งความรุ่งเรืองของความรู้และพระราชทานพระราชานุญาตให้เชิญอักษรพระนามาภิไธย “สธ” (สอ-ทอ) ประดับเหนือชื่ออาคาร เพื่อความเป็นสิริมงคล

โอกาสนี้ ทอดพระเนตรนิทรรศการผลงานวิจัยต่างๆ ของคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่มีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย มาประยุกต์ใช้ในงานด้านวิทยาศาสตร์ให้สอดคล้องกับความเป็นเอกลักษณ์และภูมิปัญญาท้องถิ่นของอีสาน อาทิ การบันทึก วิจัย งานสำรวจความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การพัฒนาผลิตภัณฑ์นาโนจากสารผลิตภัณฑ์ธรรมชาติเพื่อประโยชน์ทางการเกษตร การปรับปรุงพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105 ให้ทนเค็มและทนแล้ง โดยใช้เครื่องหมายโมเลกุลช่วยในการคัดเลือกและการจัดแสดงภูมิสารสนเทศแหล่งท่องเที่ยวบริเวณอุทยานธรณีขอนแก่น

เวลา 15.31 น. เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทรงวางศิลาฤกษ์อาคารศูนย์บริการการแพทย์เฉพาะทางชั้นเลิศ จัดสร้างขึ้นเพื่อขยายบริการด้านการรักษาพยาบาลและการบริการสุขภาพของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงการพัฒนาคุณภาพการบริการให้ทัดเทียมกับโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยในกรุงเทพมหานครและนานาชาติ

โดยจะประกอบด้วย 4 อาคาร ได้แก่ อาคารศูนย์บริการการแพทย์ สูง 21 ชั้น มีพื้นที่ให้บริการผู้ป่วยนอก 6 ชั้น เตียงผู้ป่วยใน 622 เตียง ในจำนวนนี้ เป็นหออภิบาลผู้ป่วยระยะวิกฤต 117 เตียง มีห้องผ่าตัดและห้องส่องกล้อง อาคารสนับสนุนบริการการแพทย์ สูง 8 ชั้น อาคารจอดรถ สูง 12 ชั้น และอาคารเรือนพักญาติ สูง 4 ชั้น สามารถรองรับญาติผู้ป่วยได้ 420 เตียง โดยมีระยะเวลาก่อสร้างแล้วเสร็จ 43 เดือน ซึ่งจะสามารถให้บริการรักษาพยาบาลด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมทั้งเป็นสถานที่สำหรับการเรียนการสอน บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขในทุกระดับ โดยเฉพาะการฝึกอบรมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางสาขาต่างๆ ตลอดจนใช้เป็นที่ทำงานวิจัยเชิงลึกด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมใหม่ๆ ทางการแพทย์

ทั้งนี้ ในปีคริสต์ศักราช 2020 มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้รับการจัดอันดับโลกสาขาด้านการแพทย์และสุขภาพขยับสูงขึ้นจากการประกาศผลการจัดอันดับของ “Times Higher Education” ซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกจากประเทศอังกฤษ โดยขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 501 ถึง 600 ของโลก และเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทยร่วมกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หลังจากปีคริสต์ศักราช 2019 ที่อยู่ในอันดับ 601+ (บวก) ของโลก และอันดับ 4 ของประเทศไทย

ข่าวในพระราชสำนัก สทท.

Scroll to Top