มข.จับมือ ออสก้า โฮลดิ้ง ผลิตพลังงานรักษ์โลก แบตเตอรี่แบบสับเปลี่ยน เพื่อยานยนต์ไฟฟ้า หยุดก๊าซเรือนกระจก มุ่ง Net Zero ในปี 2065

เมื่อวันอังคารที่ 23 มกราคม 2567 เวลา 09.00 น. มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดแถลงข่าว “โครงการจัดบริการยานยนต์ไฟฟ้าโดยใช้แบตเตอรี่แบบสับเปลี่ยน” โดยมี รองศาสตราจารย์ นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวเปิดงาน พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นพ.ธรา ธรรมโรจน์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อาวุธ ยิ้มแต้ รองอธิการบดีฝ่ายโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งแวดล้อม รองศาสตราจารย์ ดร.นงลักษณ์ มีทอง ผู้อำนวยการโรงงานแบตเตอรี่และพลังงานยุคใหม่ พันโท หม่อมราชวงศ์ พีรานุพงศ์ ภาณุพันธ์ ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการ บริษัท ออสก้า โฮลดิ้ง จำกัด นายสุรชัย สินประกอบ พลังงานจังหวัดขอนแก่น และนายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ร่วมงานแถลงข่าว ในการนี้มีสื่อมวลชน และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ณ ห้องประชุมสารสิน ชั้น 2 อาคารสิริคุณากร มหาวิทยาลัยขอนแก่น

รองศาสตราจารย์ นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยว่า โครงการจัดบริการยานยนต์ไฟฟ้า โดยใช้แบตเตอรี่แบบสับเปลี่ยน เป็นความร่วมมือในการนำผลิตภัณฑ์ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่เป็น Deep Technology หรือเทคโนโลยีระดับสูงที่ มีความซับซ้อน ผ่านการค้นคว้าวิจัย และคิดค้นขึ้นใหม่จากนวัตกรรมเชิงวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์ ที่เรามีความเข้มแข็ง มาต่อยอดเชิงพาณิชย์

“มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีนักศึกษาอยู่ประมาณ 38,000 คน และบุคลากรอีกกว่า 10,000 คน ทำให้มีการใช้งานรถจักรยานยนต์หลายหมื่นคัน หากเราสามารถเปลี่ยนรถจักรยานยนต์ที่ใช้น้ำมันมาเป็นรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า จะส่งผลดีอย่างมหาศาลทั้งในแง่ของการใช้พลังงานสะอาด ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ฉะนั้นโครงการนี้จึงเป็นความตั้งใจของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ต้องการจะส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นเมืองยานยนต์ไฟฟ้า เราจึงเห็นว่า บริษัท ออสก้า โฮลดิ้ง จำกัด มีอุดมการณ์ในการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ จากแนวคิดดังกล่าวจึงนำมาสู่ความร่วมมือในครั้งนี้

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นพ.ธรา ธรรมโรจน์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า การดำเนินการครั้งนี้มีผลอย่างมากเชิงยุทธศาสตร์ Great Place to Live มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเป็นไปตามที่สภามหาวิทยาลัยขอนแก่นกำหนดให้มีการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมเป็น Green University หรือ มหาวิทยาลัยสีเขียว หมายถึง มหาวิทยาลัยที่มีการบูรณาการอนุรักษ์ด้านพลังงาน และสิ่งแวดล้อมเข้าไปในการเรียน การสอน การวิจัย และในทุกกิจกรรมของมหาวิทยาลัย

“โครงการจัดบริการยานยนต์ไฟฟ้า โดยใช้แบตเตอรี่แบบสับเปลี่ยน” สนับสนุนยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยในหลายประเด็น ประเด็นแรกเป็นการสนับสนุนทางด้านงานวิจัย และ นวัตกรรมการพัฒนาแบตเตอรี่ให้สามารถนำมาใช้ได้จริง ประเด็นที่ 2 เป็นการส่งเสริมยุทธศาสตร์ “Education Transformation” การปรับเปลี่ยนการจัดการศึกษาของมหาวิทยาลัยขอนแก่น อาทิ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการซ่อม หรือ การดูแลรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมยุทธศาสตร์ Social Contribution การมีส่วนร่วมในการสนับสนุน หรือช่วยเหลือสังคม ที่ส่งเสริมเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs) หลายด้าน อาทิ SDG 7 : Affordable and Clean Energy  พลังงานสะอาดที่ทุกคนเข้าถึงได้  SDG 13 Climate Action ปฏิบัติการอย่างเร่งด่วนเพื่อต่อสู้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบที่เกิดขึ้น การลดฝุ่นละอองจากการใช้เครื่องยนต์ SDG 11 Sustainable Cities and Communities ทำให้เมืองและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มีความครอบคลุม ปลอดภัย และยั่งยืน ฉะนั้นการที่เราสามารถนำเอาเทคโนโลยีมาจัดการเป็นการส่งเสริมยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่นโดยตรง นักศึกษาและบุคลากรจะได้รับประโยชน์จากโครงการนี้อย่างยิ่ง

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อาวุธ ยิ้มแต้ รองอธิการบดีฝ่ายโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า  มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีเป้าหมายสำคัญที่สอดคล้องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการมีส่วนร่วมให้ประเทศไทยเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065 “โครงการจัดบริการยานยนต์ไฟฟ้า โดยใช้แบตเตอรี่แบบสับเปลี่ยน” เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่มุ่งมั่นที่จะลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากภาคการขนส่ง โดยใช้ยานพาหนะไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  ผมหวังให้ โครงการนี้ เป็นต้นแบบให้กับการใช้พลังงานสะอาด ในภาคการขนส่งให้กับหน่วยงานอีกหลายแห่งในประเทศไทย เพื่อช่วยกันประหยัดพลังงานสำหรับโลกอนาคต และร่วมกันแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกตามนโยบาย Net Zero อย่างเป็นรูปธรรม และยั่งยืนต่อไป

รองศาสตราจารย์ ดร.นงลักษณ์ มีทอง ผู้อำนวยการโรงงานแบตเตอรี่และพลังงานยุคใหม่ กล่าวว่า โรงงานแบตเตอรี่และพลังงานยุคใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทำหน้าที่ผลิตแบตเตอรี่แบรนด์ UVOLT ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน UNR 136 และ มอก.2952-2561 และจำหน่ายให้กับ STROM ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของไทย นอกจากนี้โรงงานฯ ยังสามารถผลิตแบตเตอรี่เพื่อรองรับการใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ต้องการแบตเตอรี่ เช่น อุปกรณ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์ทางการเกษตร และระบบกักเก็บพลังงานร่วมกับโซล่าร์เซลล์

“การให้บริการและศักยภาพของโรงงานแบตเตอรี่และพลังงายยุคใหม่ มีการรับรองการผลิตที่ถูกกฏหมายและมีผลิตภัณฑ์หลายอย่าง ซึ่งรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเป็นอีกตัวอย่างที่รองรับการใช้งานแบตเตอรรี่ได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันโรงงานแบตเตอรี่อยู่ในระหว่างการรองรับให้เป็นห้องปฎิบัติการทดสอบที่มีมาตรฐาน ในอนาคตหวังว่าโรงงานแห่งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนด้านยานยนต์ไฟฟ้า การกักเก็บพลังงานสมัยใหม่ที่ใช้แบตเตอรี่ที่ได้มาตรฐานและเป็นการพัฒนาแบตเตอรี่โดยใช้เทคโนโลยีไทย”

พันโท หม่อมราชวงศ์ พีรานุพงศ์ ภาณุพันธ์ ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการ บริษัท ออสก้า โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า ขอบคุณทางมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่เปิดโอกาสให้เรามีส่วนร่วมเป็นพันธมิตรในการผลักดันการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า โดยรุ่นที่หลักๆที่เป็นการร่วมมือระหว่างบริษัท กับ มหาวิทยาลัยขอนแก่น คือรุ่น STROM Gorilla เป็นรถจักรยานยนต์รุ่นใหญ่ สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ เหมาะกับบุคลากร นักศึกษา และ บุคคลทั่วไป ราคาเริ่มต้น 69,900 บาท อีกรุ่นจะเป็นรุ่นที่เล็กลงมา คือ รุ่น STROM Seal เหมาะสำหรับขับขี่ภายในพื้นที่มหาวิทยาลัย หรือขับขี่ภายในตัวเมือง มีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีราคาเริ่มต้น 59,900 บาท ทั้งนี้บุคลากรและนักศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น สามารถนำแบตเตอรี่มาสับเปลี่ยนได้ฟรีที่สถานีสับเปลี่ยนภายในมหาวิทยาลัย

นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวชื่นชมมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ส่งเสริมด้านการประหยัดพลังงาน เพราะเป็นอีกก้าวสำคัญที่ทำให้ทุกคนตระหนักถึงปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้การดำเนินการยังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของจังหวัดและยุทธศาสตร์ของเทศบาลในด้าน Smart City ที่สนับสนุนด้าน Smart environment และ Smart mobility

“เทศบาลกำลังทำเรื่องลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ผ่านโครงการที่หลากหลาย ฉะนั้นเมื่อมหาวิทยาลัยขอนแก่น ประกาศนโยบายว่ามีโครงการในลักษณะนี้เราต้องรีบเข้ามาช่วย หรือ ร่วมมือในทันทีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า กับ มอเตอร์ไซค์ใช้น้ำมันราคาแตกต่างกันไม่มาก แต่ในขณะเดียวกันเราจะจูงใจให้คนมาใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าได้อย่างไร แม้จะเป็นสิ่งที่ยากแต่เป็นสิ่งที่หลายภาคส่วนต้องร่วมมือกัน ทั้งการสร้างสำนึกรักสิ่งแวดล้อม และ การสร้างแรงจูงใจที่เป็นประโยชน์ต่อตัวผู้ใช้งาน ซึ่งเราไม่หวังให้เป็นจริงภายในเร็ววัน แต่เราเชื่อว่า Smart City จะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้จริงในที่สุด เพราะโครงการนี้ไม่ได้ส่งผลดีแค่เฉพาะหน่วยงานเท่านั้นแต่ประโยชน์สูงสุดจะตกอยู่กับประชาชนและ สิ่งแวดล้อม ของโลกใบนี้”

นายสุรชัย สินประกอบ พลังงานจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ดีใจที่ทางมหาวิทยาลัยขอนแก่นมีการขับเคลื่อนเรื่องของการใช้พลังงานทดแทนอย่างเป็นรูปธรรม เรามีหน้าที่นำผลงานวิจัยของทุกท่าน หรือนำความร่วมมือระหว่างเอกชน กับ มหาวิทยาลัยไปเผยแพร่สู่ประชาชนให้ได้รับทราบและได้ใช้งาน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีการขยายไปถึงทุกหน่วยงานในจังหวัดขอนแก่นต่อไป

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเลือกได้ 2 แนวทาง คือ  1. การทำสัญญาเช่าราย 3 เดือน – 1 ปี โดยสามารถใช้ทั้งจักรยานยนต์ไฟฟ้าและมาสลับแบตเตอรี่ได้ฟรี และ 2. การซื้อ โดยสามารถซื้อเป็นเงินสดหรือขอสินเชื่อผ่านธนาคารออมสิน และกรุงศรีออโต้ ซึ่งค่างวดถูกสุด ไม่เกินเดือนละ 1,500 บาท รถของสตรอมส์อีวีสามารถชาร์จที่บ้านก็ได้ หรือ หากใช้ในพื้นที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นก็มีตู้ให้บริการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ โดยสามารถนำแบตเตอรี่ที่หมดแล้วเข้าตู้สับเปลี่ยนเอาแบตเตอรี่ก้อนใหม่ออกไปใช้ในเวลาไม่ถึง 1 นาที ผู้ที่สนใจสามารถมาดูและสั่งจองรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างเลือกพื้นที่ในการจัดตั้งโชว์รูม และศูนย์บริการซ่อมภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น

ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียด รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ได้ที่

https://www.facebook.com/STROM.EV/

KKU joins OSKA Holding, Co. Ltd. to produce clean swapping batteries for EVs, doing away with greenhouse gas and aiming to achieve Net Zero in 2065

https://www.kku.ac.th/17465

 

 

 

เฮ็ดให้สุด ขุดให้เถิง!! บทบาทของนักวิชาการและนักวิจัย COLA ชวนคุยเรื่องเศรษฐกิจสร้างสรรค์ แรงงานสร้างสรรค์ ท่ามกลางกระแสซอฟพาวเวอร์ของประเทศ ผ่านรายการ “คุณเล่า เราขยาย” ที่ Thai PBS

Scroll to Top