สำนักข่าว : brandbiznews
URL : http://brandbiznews.com/news/detail/fbba8692-80ff-4d86-b4c4-f4367e98d4d6
วันที่เผยแพร่ : 4 มี.ค.2564
รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวในโอกาสเป็นประธานในที่ประชุมกำหนดแนวทางการทำงานในโครงการช่วยเหลือสังคมในภาวะวิกฤต COVID ว่า ได้หารือต่อที่ประชุมในแนวทางการทำงานของโครงการช่วยเหลือสังคมในภาวะวิกฤต COVID โดยกำหนดประเด็นในการประชุมแบ่งออกเป็นโครงการ 3 ระยะ ได้แก่ โครงการเร่งด่วน ระยะ 3 เดือน โครงการ 1 ปี และโครงการมากกว่า 1 ปี
สำหรับโครงการเร่งด่วนระยะ 3 เดือนนั้น มีเรื่องเร่งด่วนของภาคธุรกิจในจังหวัดขอนแก่นที่กำลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ระบาดระลอกใหม่ของ COVID-19 ซึ่งส่งผลกระทบอย่างหนักสุดต่อผู้ประกอบการและประชาชนที่อยู่ในสถานประกอบการต่าง ๆ โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรม เพื่อแสดงถึงความห่วงใยของมหาวิทยาลัยที่มีต่อภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการ และประชาชนในจังหวัด จึงเสนอต่อที่ประชุมเพื่อร่วมหาแนวทางในการช่วยเหลือภาคธุรกิจกรณีเร่งด่วน ระยะ 3 เดือน อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ มติที่ประชุม ได้ให้คณะต่างๆ จัดทำโครงการประชุม/อบรม/สัมมนา ให้กับบุคลากรภายใน และบุคคลภายนอก หรือดำเนินการในรูปแบบอื่น ๆ ที่เป็นรูปธรรม เพื่อเป็นการช่วยภาคธุรกิจในจังหวัด โดยกระจายการจัดให้ทั่วถึงทุกโรงแรม และเมื่อคณะดำเนินการแล้วให้ส่งข้อมูลให้ผู้อำนวยการสำนักงานอธิการบดี เพื่อเสนออธิการบดีรายงานสภามหาวิทยาลัยต่อไป
ส่วนโครงการระยะ 1 ปี เป็นการดำเนินโครงการ มหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ : U2T ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ซึ่งมหาวิทยาลัยมีบทบาทมาก เพราะได้รับผิดชอบตำบลมากที่สุด จำนวน 135 ตำบล และดูแลเครือข่ายกว่า 200 ตำบล มีคณะรับผิดชอบหลัก 16 คณะ ซึ่งได้เริ่มดำเนินโครงการแล้ว โดยที่ประชุมได้มีมติมอบหมายให้รองอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและวิสาหกิจเตรียมทีมวางแผนวิเคราะห์สังเคราะห์บทเรียน เมื่อสิ้นสุดโครงการ จะมีแนวทาง วิธีคิดอย่างไร ทำอะไรบ้าง อะไรคือปัจจัยที่ทำให้สำเร็จ อะไรคือปัจจัยที่ทำให้ไม่สำเร็จ เพื่อจะได้เป็นบทเรียนอีกอันหนึ่ง ซึ่งคณะมีแนวทางในแต่ละชุมชนแตกต่างกัน แต่เป้าหมายครบ 4 หัวข้อตามที่กระทรวงฯ ต้องการ แต่วิธีดำเนินการอาจจะไม่เหมือนกัน อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดประโยชน์ในโครงการ หากมหาวิทยาลัยมีการวางแผนวิเคราะห์สังเคราะห์อาจจะได้อะไรบางอย่างเมื่อสิ้นสุดโครงการที่จะสามารถนำไปถ่ายทอด และรายงาน อว. ได้รับทราบ และอาจจะเป็นประโยชน์ในการดำเนินการเฟส 2 เฟส 3 ต่อไป
ขณะที่โครงการมากกว่า 1 ปี : Rebound for Quality Growth 2022 เป็นความต่อเนื่องจากการประชุมของกลุ่มสาขาวิชาได้นำเสนอโครงการ เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งโดยรวมมีโครงการเฉพาะกลุ่ม สาขา และโครงการข้ามกลุ่มสาขา มีความทับซ้อน หรือเหลื่อมกันมาก จึงมีมติที่ประชุม ให้แต่ละกลุ่มสาขาประชุมพูดคุยกันต่อจากการสัมมนาวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 เพื่อแปลงหัวข้อออกมาเป็นโครงการ แล้วหากมีความจำเป็นต้องบูรณาการข้ามกลุ่ม ให้ประสานข้ามกลุ่ม และนำเสนอต่อที่ประชุมสัมมนาอีกครั้ง