……….มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่เป็นกรณีพิเศษขึ้นเป็นประจำทุกปีเพื่อให้นักศึกษาศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพมหาวิทยาลัยขอนแก่น ประกอบด้วย คณะแพทยศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์คณะเทคนิคการแพทย์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ และคณะพยาบาลศาสตร์ ได้ระลึกถึงพระคุณของครูใหญ่ผู้บริจาคร่างกายให้แก่ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อเป็นสื่อการเรียนการสอนในรายวิชากายวิภาคศาสตร์ของนักศึกษาศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพมหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อสิ้นสุดการเรียนกับครูใหญ่ในทุกปี นักศึกษาศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ ร่วมกับภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จะจัดงานพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่เป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้สังคมได้รับรู้ถึงเกียรติคุณอันยิ่งใหญ่ และแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อครูใหญ่ที่เคารพอย่างสูง
……….เมื่อวันเสาร์ที่ 9 มกราคม 2564 นักศึกษาศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพมหาวิทยาลัยขอนแก่น 6 คณะ ได้เคลื่อนร่างครูใหญ่ จำนวน 681 ร่าง สู่ศาลาพระราชทานเพลิงศพ วัดสว่างสุทธาราม บ้านหนองกุง ตำบลศิลา อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น และได้จัดพิธีขอขมาครูใหญ่ในเวลา 17.30 น. เป็นพิธีทางสงฆ์ โดยมีตัวแทนของนักศึกษาจะได้กล่าวคำขอขมาในสิ่งที่อาจมีการล่วงเกินต่อครู่ใหญ่ในระหว่างการเล่าเรียน อันเป็นพิธีที่คณาจารย์และนักศึกษาทุกคนต่างให้ความสำคัญอย่างยิ่ง และจัดพิธีสวดพระอภิธรรมศพในเวลา 18.30 น. โดยมี รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นประธานในพิธี
……….ต่อมาในวันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม 2564 เป็นพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่เป็นกรณีพิเศษ โดยมี ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานฝ่ายฆราวาส และมีพระธรรมดิลก เจ้าคณะภาค 9 ฝ่ายธรรมยุต เจ้าคุณสมาน สุเมโธ เปรียญธรรม 9 ประโยค เจ้าอาวาสวัดป่าแสงอรุณ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เป็นประธานในพิธีฝ่ายสงฆ์ พระครูกมล กิตติสาร เจ้าอาวาสวัดสว่างสุทธาราม เป็นรองประธานในพิธีฝ่ายสงฆ์ และมีวงปี่พาทย์โดยวงดนตรีไทยจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
……….เวลา13.10 น. เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังได้นำเพลิงหลวงพระราชทานมาถึงบริเวณพิธี ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ประธานในพิธี นำข้าราชการแต่งกายในชุดปกติขาวไว้ทุกข์ ตั้งแถวรับเพลิงหลวงพระราชทาน เวลา 13.30 น. รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ อภิชาติ จิระวุฒิพงศ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น อ่านหมายรับสั่งจากสำนักพระราชวัง รองศาสตราจารย์ เพียรศักดิ์ ภักดี รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวคำสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และ นศ.พ.คุณัชญ์ เหล่าวัฒนากุล ประธานอนุกรรมการฝ่ายนักศึกษาศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพกล่าวคำไว้อาลัย
……….รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ อภิชาติ จิระวุฒิพงศ์ อ่านหมายรับสั่ง ความว่า “หมายรับสั่งที่ 13639 สำนักพระราชวัง 9 พฤศจิกายน 2563 พระบาทสมเด็พระเจ้าอยู่หัว ฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานเพลิงศพผู้อุทิศร่างกายเพื่อการศึกษา วิชามหกายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ คณะเทคนิคการแพทย์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ และคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จำนวน 681 ราย เป็นกรณีพิเศษ ณ เมรุวัดสว่างสุทธาราม อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น วันอาทิตย์ ที่ 10 มกราคม 2564 เวลา 14.10 น. พระราชทานเพลิง หน้าที่กองพระราชพิธีนำหมายเรียน อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อทราบ ติดต่อขอรับกล่องเพลิงพระราชทานที่กระทรวงวัฒนธรรม ไปปฏิบัติ. พลอากาศเอก(สถิตย์พงษ์ สุขวิมล) เลขาธิการพระราชวัง”
……….รองศาสตราจารย์ เพียรศักดิ์ ภักดี กล่าวคำสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ความว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่เป็นกรณีพิเศษ ประจำปีพุทธศักราช 2563 ผู้อุทิศร่างกายให้การศึกษาแก่นักศึกษาศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพมหาวิทยาลัยขอนแก่นซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม เป็นเกียรติอันสูงสุดแก่ผู้วายชนม์และวงศ์ตระกูลอย่างหาที่สุดมิได้ หากความทราบโดยญาณวิถีถึงดวงวิญญาณของครูใหญ่ได้ด้วยประการใดในสัมปรายภพ คงจะมีความปลาบปลื้มซาบซึ้งเป็นล้นพ้นในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้พระราชทานเกียรติอันสูงยิ่งในวาระสุดท้ายแห่งชีวิต ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานกราบถวายบังคมแทบเบื้องพระยุคลบาท ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ และจะเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมเป็นสรรพสิริมงคลแก่วงศ์ตระกูลครูใหญ่ทุกท่านตลอดไป ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ”
นศ.พ.คุณัชญ์ เหล่าวัฒนากุล ประธานอนุกรรมการฝ่ายนักศึกษาศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ กล่าวคำไว้อาลัยครูใหญ่ว่า “ “ครูใหญ่” คำเรียกขานต่อครูผู้อุทิศร่างที่หาชีวิตไม่แล้วของท่าน เพื่อเป็นวิทยาทานในการศึกษา เป็นการให้ทานที่ยิ่งใหญ่ ครูใหญ่เปรียบเสมือนตำราเล่มสำคัญสำหรับนักศึกษาในศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพทั้ง 6 คณะได้เรียนรู้จากร่างกายของท่านจริง ๆ ได้มีความรู้ความเข้าใจ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในแต่ละสาขาวิชาได้เป็นอย่างดี
ได้เรียนจากร่างสร้างจากครูผู้อุทิศ ช่วยชีวิตด้วยความรู้จากครูใหญ่
ครูชี้ทางด้วยร่างไร้ลมหายใจ ยังซึ้งในพระคุณท้นล้นเมตตา
สำนึกมั่น กตัญญู กราบครูใหญ่ สละ สรีระให้ ได้ศึกษา
วิทยาทานโอบเอื้อเหลือคณา ศิษย์มหาวิทยาลัยขอนแก่น แสนภาคภูมิ
……….“ในนามนักศึกษาศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพรู้สึกซาบซึ้งในพระคุณของคุณครูใหญ่ที่สละสรีระร่างของท่านให้ศิษย์ทั้งหลายได้ศึกษาเล่าเรียน ขออานิสงส์แห่งกุศลผลบุญที่ท่านครูใหญ่ได้สร้างสม น้อมนำให้ดวงวิญญาณของครูใหญ่ทุกท่านไปสู่สุคติในสัมปรายภพด้วยเทอญ”
……….พิธีการสุดท้ายได้ดำเนินการเสร็จสิ้นเรียบร้อยเมื่อ รองศาสตราจารย์ เพียรศักดิ์ ภักดี ประธานฝ่ายฆราวาสทอดผ้าไตรบังสุกุลไตรประธาน และประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพบนเมรุพิธี โดยท่านเจ้าคุณสมาน สุเมโธ เปรียญธรรม 9 ประโยค เจ้าอาวาสวัดป่าแสงอรุณ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ประธานในพิธีฝ่ายสงฆ์ขึ้นรับพิจารณาผ้าไตรบังสุกุลไตรประธาน คณะผู้บริหาร ข้าราชการ นักศึกษา วางดอกไม้จันทน์
……….ต่อมาในวันจันทร์ที่ 11 มกราคม 2564 เวลา 6.00 น. มีพิธีทำบุญอัฐิ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ครูใหญ่ 681 ร่าง โดยมี รศ.ดร.ปาริฉัตร ประจะเนย์ รักษาการแทนหัวหน้าภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นประธานในพิธี และมีคณาจารย์ เจ้าหน้าที่ และนักศึกษาศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพเข้าร่วมในพิธีทำบุญอย่างพร้อมเพรียง
……….ตามกำหนดการเดิมที่กำหนดให้ญาติครูใหญ่เข้าร่วมพิธีพระราชทานเพลงศพครูใหญ่ ครอบครัวละ 5 คน แต่เมื่อสถานการณ์โรคระบาดที่มีระลอกที่ 2 จึงจำเป็นต่อการดำเนินการลดจำนวนผู้เข้าร่วมพิธีการสำคัญเหลือเพียงคณาจารย์ เจ้าหน้าที่ และนักศึกษาในจำนวนจำกัดเท่านั้น
รศ.ดร.ปาริฉัตร ประจะเนย์ รักษาการหัวหน้าภาควิชากายวิภาคศาสตร์ เปิดใจต่อการจัดงานพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่เป็นกรณีพิเศษประจำปีการศึกษา 2563 ในสถานการณ์ของการเกิดโรคระบาดโควิด-19 ว่า “ในนามคณะกรรมการจัดงานพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่เป็นกรณีพิเศษประจำปีการศึกษา 2563 ขอกราบอภัยญาติครูใหญ่ทุกท่านที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจจะเข้าร่วมงานพิธีในปีนี้ สืบเนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ทำให้คณะกรรมการจัดงานตัดสินใจลำบากมาก แม้จะเลื่อนจากเดือนมิถุนายน 2563 มาเป็นวันที่ 9-11 มกราคม 2564 แต่ต้องมาเจอสถานการณ์ของการระบาดรอบใหม่ ต้องขออนุมัติจัดงานต่อจังหวัด ซึ่งมีระเบียบให้มีคนร่วมงานไม่เกิน 500 คน และต้องมีมาตรการคัดกรอง covid-19 อย่างเคร่งครัด มีการสแกนอุณหภูมิก่อนเข้างาน บริการเจลแอลกอฮอล์ จุดเช็คอินไทยชนะ และการเว้นระยะห่าง”
รศ.ดร.ปาริฉัตร กล่าวต่อไปว่า “งานพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่ จำเป็นต้องจัดงานขึ้นทุกปี เนื่องจากว่าสถานที่ที่ดูแลเก็บรักษาครูใหญ่จะไม่เพียงพอ ขออภัยญาติครูใหญ่ทุกๆ ท่าน และผู้มีจิตศรัทธาที่ประสงค์จะร่วมเข้ามาทำโรงทาน ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์อย่างสูงทุกปี แต่ทานสำคัญที่สามารถทำได้เลยก็คือ ‘การอภัยทาน’ สำหรับญาติ ๆ ทางคณะฯได้ถ่ายทอดสด ผ่านทางเพจ https://www.facebook.com/Kruyai2557/ ด้านนักศึกษาทุกคนต่างมีความตั้งใจสูงในการจัดงานเพื่อจะส่งครูใหญ่ทุก ๆ ท่านขึ้นสู่สรวงสวรรค์ โดยแบ่งหน้าที่เป็นฝ่ายอำนวยการ ฝ่ายพิธีการ ฝ่ายปฏิคม ฝ่ายสาราณียกร ฝ่ายฌาปนกิจ ฝ่ายสถานที่ ฝ่ายสวัสดิการและโรงทาน ฝ่ายโสตทัศนอุปกรณ์ ฝ่ายจราจร ฝ่ายจัดหาทุน ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ฝ่ายประสานงาน ฝ่ายเหรัญญิก เพื่อดูแลครูใหญ่ของเขาอย่างดีที่สุด”
……….“ปีที่ผ่าน ๆ มา ไม่ได้จำกัดจำนวนญาติที่จะเข้าร่วมงาน ทำให้มีผู้มาร่วมงานกว่าหมื่นคน ใน 3 วัน ในปีนี้มีครูใหญ่จำนวน 681 ร่าง หากจำกัดจำนวนญาติที่ 5 คน เมื่อนำจำนวนของครูใหญ่ 681 ร่าง คูณด้วย 5 ที่เป็นจำนวนญาติ และบวกจำนวนผู้มาโรงทาน ผู้มารับโรงทานนักศึกษา อาจจะมีผู้มาร่วมงานกว่า 8,000 คน ด้านนักศึกษาที่เข้าร่วมงาน คณะแพทยศาสตร์เป็นคณะหลักในการดำเนินงาน มีนักศึกษาประมาณ 900 คน นักศึกษาอีก 5 คณะกว่า 1 พันคน ดังนั้นจึงต้องคัดกรองนักศึกษาอย่างเข้มข้น งดการเข้าร่วมกิจกรรมของนักศึกษาที่กลับมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรืออยู่ในพื้นที่เฝ้าระวัง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด”
……….“หลังจากพิธีพระราชทานเพลิงศพแล้ว จะมีพิธีการบรรจุอัฐิของครูใหญ่ลงบรรจุในโกศให้สวยงามเป็นเกียรติ พร้อมมีหนังสืออนุสรณ์ และเกียรติบัตรมอบให้ญาติครูใหญ่ โดยนักศึกษาจะทำการบรรจุในถุงให้สวยงาม และทำทะเบียนให้เรียบร้อย จากนั้นนักศึกษาจะติดต่อทางโทรศัพท์ไปยังญาติครูใหญ่ทุกท่าน เพื่อนัดหมายวันเข้ารับมอบอัฐิล่วงหน้า ซึ่งกำหนดให้เข้ารับได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป และเพื่อความปลอดภัยในการรักษาระยะห่าง จะจำกัดการเข้ารับอัฐิวันละ 30 ท่าน คณะกรรมการจัดงานต้องกราบขออภัยในความไม่สะดวกไว้ ณ ที่นี้” รศ.ดร.ปาริฉัตร ประจะเนย์ กล่าวในท้ายที่สุด
……….กำหนดการรับอัฐิจะสามารถรับได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นไป ณ จุดรับบริจาคร่างกายชั้น4 อาคารเรียนรวม คณะแพทยศาสตร์ ภายในวันเวลาราชการ จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-16.00 น. โดยญาติครูใหญ่ลำดับที่ 1 จะเป็นผู้เข้ารับ พร้อมนำสำเนาบัตรประชาชนเพื่อเป็นหลักฐานในการรับ หรือมอบหมายให้มีผู้รับแทนโดยทำหนังสือมอบอำนาจให้ผู้รับแทนเป็นหลักฐานในการรับพร้อมสำเนาบัตรประชาชน ทั้งนี้ นักศึกษาจะโทรศัพท์แจ้งการนัดหมายกับญาติครูใหญ่ หรือโทรศัพท์นัดหมายกับเจ้าหน้าที่ก่อนล่วงหน้าก่อนวันรับอัฐิ 1 วัน ที่หมายเลขโทรศัพท์ 094 468 5551 หรือ 0 43 202 426 ญาติครูใหญ่จะได้รับ โกศบรรจุอัฐิ หนังสือที่ระลึก เกียรติบัตร พร้อมกระเป๋าที่ระลึก
ข่าว : วัชรา น้อยชมภู / รวิพร สายแสนทอง
ภาพ : วัชรา น้อยชมภู / รวิพร สายแสนทอง / หน่วยสื่อสารองค์กร คณะแพทยศาสตร์
………. และ อนุกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ พิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่ ประจำปีการศึกษา 2563