เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธุ์ 2563 รศ.นพ. ภิรุญ มุตสิกพันธ์ อาจารย์ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ให้ความรู้เรื่องการติดต่อของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 โดยได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกับ อาจารย์วรวุฒิ อันปัญญา รองผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลบ้านสามเหลี่ยม และนายสมชาติ ชัยอยุทธ์ ประธานชุมชนสามเหลี่ยม 3 เทศบาลนครขอนแก่น ผ่านรายการวิทยุมหาวิทยาลัยขอนแก่นเพื่อชุมชน ออกอากาศเป็นประจำทุกวันอังคาร เวลา 15.00-16.00 น ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยขอนแก่น FM.103 MHz.
รศ.นพ.ภิรุญ มุตสิกพันธุ์ อาจารย์ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ 2019 ซึ่งมีการระบาดมาตั้งแต่ปลายปี 2019 มีจุดเริ่มต้นมาจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหู่เป่ย ประเทศจีน มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต มีการแพร่ระบาดไปในหลายประเทศตามรายงานข่าว นั้น ก่อนอื่นขอให้ประชาชนศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ 2019 อย่างถูกต้อง และอย่าวิตกกังวลจนเกินไป แต่เราก็ไม่ควรประมาทในการป้องกันตนเอง โรคไข้หวัดที่เกิดจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ 2019 สามารถรักษาให้หายได้ และเชื้อไม่ได้ลอยอยู่ในอากาศ แต่เชื้อปะปนมากับละอองฝอยจากการจาม ไอ ของผู้ป่วย สามารถแพร่เชื้อได้ในระยะไม่เกิน 1 เมตร และใช้เวลาเข้าสู่ระบบร่างกายนานถึง 20 นาที ซึ่งเพียงแค่เดินผ่านกันตามถนนทั่วไปไม่ติดเชื้อได้ และยิ่งถ้าเราร่างกายแข็งแรงไม่มีโรคประจำตัวก็ไม่น่ากังวล ตามที่มีข่าวลวงออกมาว่าเชื้อลอยตามอากาศ เดินผ่านกันก็สามารถติดเชื้อได้นั้น ไม่เป็นความจริง
เชื้อไวรัสโคโรนา เป็นไวรัสที่มีมาเป็น100 ปี แล้ว เดิมมี 4 สายพันธุ์ โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการติดเชื้อทางเดินหายใจ ไอ จาม เจ็บคอ มีน้ำมูก มีเสมหะ เป็นประมาณ 3-7วัน ก็สามารถหายเองได้ แต่ถ้าเป็นไข้หวัดใหญ่จะมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเป็นไข้ร่วมด้วย ต่อมาเมื่อ 20 ปีก่อน ก็มีการเกิดสายพันธุ์ที่ 5 ขึ้น คือ โรคซาร์ส 10 ปี ต่อมามีการเกิดสายพันธุ์ที่ 6 คือ โรคเมอร์ส และเมื่อปลายปีที่ผ่านมามีการเกิดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 มีจุดเริ่มต้นมาจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหู่เป่ย ประเทศจีน แตกต่างและรุนแรงจากโรคไข้หวัดธรรมดาซึ่งเกิดจากโคโรนา 4 สายพันธุ์เดิม ตรงที่เชื้อเข้าไปทำลายระบบการหายใจส่วนล่าง คือ ไปทำลายเนื้อเยื่อปอด ทำให้ปอดอักเสบ ปอดบวมได้ ถ้ารุนแรงก็สามารถทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ในที่สุด ระยะฟักตัวใช้เวลาประมาณ 14 วัน ถึงจะแสดงอาการ
กลุ่มเสี่ยงในการรับเชื้อ คือ เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคปอด โรคหัวใจ ผู้มีโรคประจำตัว ส่วนใครที่มีอาการไข้ หรือ เดินทางกลับมาจากไปประเทศจีน ใกล้ชิดกับคนจีนที่เพิ่งเดินทางมาจากประเทศจีน ในช่วงนี้ ขอให้ไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลและแจ้งประวัติให้ชัดเจน เพราะโรคนี้ถ้ารักษาเร็วยิ่งดีและสามารถรักษาให้หายได้ ด้านกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบนโยบายให้กับทุกโรงพยาบาล ในการรับผู้ป่วยที่เข้าข่ายเบื้องต้น ต้องคัดกรองอย่างละเอียด มีห้องแยกโรคจากผู้ป่วยทั่วไปอย่างชัดเจน ห้องความดันลบ ยารักษาโรค และอุปกรณ์ต่าง ๆ ต้องเตรียมพร้อมสำหรับการักษา เพื่อตรวจดูว่าผู้ป่วยมีความเสี่ยงในการติดเชื้อหรือไม่ มีการเฝ้าระวังและดูอาการอย่างน้อย 14 วัน ตามเกณฑ์ ถ้าภายในเวลา 14 วันไม่มีอาการใด ๆ เกิดขึ้นก็สามารถพักรักษาตัวที่บ้านได้ ทั้งนี้ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ได้ร่วมมือกับทางสาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลในจังหวัดขอนแก่น ในการเตรียมพร้อมรับผู้ป่วย และป้องกันโดยการให้ความรู้ที่ถูกต้องกับประชาชน เน้นเรื่องการป้องกันตัวเอง ด้วยวิธีง่ายๆ กินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ ใช้ช้อนกลางเมื่อต้องรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น ล้างมือเป็นประจำระหว่างวัน ใช้เจลล้างมือเพื่อความสะดวกก็ได้ ที่สำคัญเราต้องดูแลสุขภาพให้แข็งแรงพักผ่อนให้เพียงพอ และหากต้องเข้าไปอยู่ในสถานที่ ที่มีผู้คนจำนวนมาก เช่น สนามบิน เดินทางด้วยเครื่องบิน รถสาธารณะ ไปห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ขอให้ป้องกันตนเองด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัย และในเวลาที่ญาติไปเยี่ยมผู้ป่วยในโรงพยาบาลขอให้สวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ก่อนและหลังเยี่ยม อย่าใกล้ชิดกับผู้ป่วยนานเกิน 20 นาที เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากทั้งคนป่วยและญาติ นอกจากนี้การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปีก็ควรทำเพราะในประเทศไทยนั้นมีการระบาดของไข้หวัดใหญ่มากกว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019
อาจารย์ วรวุฒิ อันปัญญา รองผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลบ้านสามเหลี่ยม “สำหรับโรงเรียนเราได้ให้ความรู้กับนักเรียนในเรื่องของการหลีกเลี่ยงไปในสถานที่สุ่มเสียง ชุมชนแออัด และนำข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข่าวและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาเล่าให้นักเรียนฟัง เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องและตรงกัน ซึ่งเด็กจะต้องไม่เอาตัวเองไปอยู่ในสถานที่เสี่ยงในพื้นที่ต่าง ๆ ตอนนี้เราได้ให้คำแนะนำกับ 11 โรงเรียนในสังกัดเกี่ยวกับข้อเท็จจริงของโรค วิธีการปฏิบัติ และการดูแลตัวเอง นอกจากนี้ขอให้ผู้ปกครองนักเรียนสังเกตบุตรหลานของตนเอง หากมีอาการไข้ ไอ จาม ขอให้หยุดเรียนก่อน แล้วรีบพาไปหาหมอ เพื่อป้องกันการติดต่อ เพราะผู้ปกครองบางคนเห็นลูกไม่เป็นอะไรมากก็จะให้มาโรงเรียน ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่ไม่ถูก ยิ่งจะทำให้เด็กมีอาการทรุดลงเพราะร่างกายไม่ได้พักผ่อน และอาจมาแพร่เชื้อให้เพื่อนๆในโรงเรียนได้
นายสมชาติ ชัยอยุทธ์ ประธานชุมชนสามเหลี่ยม 3 เทศบาลนครขอนแก่น “ในตอนนี้เท่าที่สังเกตคนในชุมชนก็ไม่ค่อยวิตกกังวลเรื่องเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 มากนัก เนื่องจากโรคนี้ยังมาไม่ถึงจังหวัดขอนแก่น แต่พวกเราจะกังวลเรื่องฝุ่น PM 2.5 มากกว่า ทางเทศบาลนครขอนแก่นก็ให้ความรู้ในเรื่องการดูแลและป้องกันตัวเอง และชาวชุมชนก็สามารถหาข้อมูลข่าวสารการแพร่ระบาดจากสื่อต่างๆได้ตลอดเวลา แต่ส่วนตัวผมก็พยามยามดูแลสุขภาพของตนเองด้วยการออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ และไม่เข้าไปอยู่ในที่มีผู้คนจำนวนมาก ซึ่งเราก็บอกแนวทางปฏิบัติแบบนี้กับคนในชุมชนและสมาชิกในครอบครัว อยู่เสมอ
ทั้งนี้ ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 13.30-15.30 น. ได้มีการจัดประชุมวิชาการ “รู้เท่าทันอู่ฮั่น ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่ห้องบรรยาย 1 อาคารเตรียมวิทยาศาสตร์ 2 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมี รศ.นพ.อภิชาติ จิระวุฒิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีนครินทร์ และ รศ.นพ.ภิรุญ มุตสิกพันธุ์ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นวิทยากรด้วย
ข่าว : ชุตินันท์ พันธ์จรุง / วนิดา บานเย็น
ถ่ายภาพ : บรรจง เศษวิสัย