ศูนย์หัวใจสิริกิติ์ฯ เข้มการคัดกรองระดับสูงสุด ป้องกันการระบาดไวรัสโควิด-19
(2 มีค.2563) หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุข ออกประกาศกำหนดให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตรายลำดับที่ 14 ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 และมีผลบังคับใช้แล้ว โดยเน้นย้ำให้มีการเฝ้าระวังและการแจ้งต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ กรณีพบผู้ป่วยหรือสงสัยว่าป่วย ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ซึ่งจะต้องรายงานภายใน 3 ชั่วโมง หากฝ่าฝืนจะมีความผิด โดยปรับไม่เกิน 20,000 บาท
คณะกรรมการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อศูนย์หัวใจสิริกิติ์ฯ มีคำสั่งเพิ่มระดับการคัดกรองขั้นสูงสุด โดยจัดเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำและสังเกตอาการของประชาชนผู้มาใช้บริการอย่างเข้มงวด เริ่มตั้งแต่ที่จุดบริการด่านหน้า (จุดคัดกรองผู้ป่วย) อาคารศูนย์หัวใจสิริกิติ์ฯ และจุดบริการทุกส่วนงาน ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข หลังพบแนวโน้มอัตราผู้ป่วยและติดเชื้อสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับมาตรการการเฝ้าระวังการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทางศูนย์หัวใจสิริกิติ์ฯ เริ่มต้นดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาแล้ว โดยปิดประตูทางขึ้นสู่ชั้น 1 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทุกคน รวมถึงผู้มาใช้บริการสามารถเข้าออกได้ 2 ช่องทาง คือจุดคัดกรองด่านหน้า และทางขึ้นบันไดบริเวณชั้น G เพื่อให้ง่ายต่อการคัดกรองผู้คนเข้าออก และหากพบผู้ที่มีอาการต้องสงสัยจะถูกบันทึกประวัติและสอบสวนโรคอย่างละเอียด รวมถึงให้ข้อมูลการเดินทางในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าไปใช้ชีวิตอยู่ในจุดที่มีความเสี่ยงรับเชื้อหรือไม่ สำหรับญาติผู้ป่วยจะมีการติดสติ๊กเกอร์สะท้อนแสงไว้ชัดเจนหากผ่านการสอบสวนโรคแล้ว
ทั้งนี้ ศูนย์หัวใจสิริกิติ์ฯ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่มีจำนวนผู้มาใช้บริการตรวจรักษาตลอดทั้งวัน จึงมีการยกระดับการคัดกรองผู้ป่วยโดยให้ทุกหน่วยควบคุมและเฝ้าระวังสูงสุด พร้อมนำเจลล้างมือไว้บริการตามจุดต่าง ๆ รอบโรงพยาบาล นอกจากนี้ฝ่ายประชาสัมพันธ์ยังรายงานสถานการณ์ไวรัสโควิด -19 ผ่านเสียงตามสาย ข้อความบนจอวีดิทัศน์ พร้อมขอให้ผู้มารับบริการที่มีอาการไข้ ไอ จาม มีผื่นตุ่มน้ำ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ที่จุดคัดกรองด่านหน้าและทุกจุดให้บริการทันที เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มาใช้บริการ
“มุ่งเน้นมาตรฐาน บริการปลอดภัย ศูนย์หัวใจสิริกิติ์ฯ” เราพร้อมควบคุมและสกัดกั้นการระบาดของไวรัสมรณะ โคโรน่า (COVID-19)