สำนักข่าว : ข่าวหุ้นธุรกิจ
URL : https://www.kaohoon.com/content/429301
วันที่เผยแพร่ : 9 มีนาคม 2564
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (9 มี.ค.64) อนุมัติโครงการที่ผ่านการการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ (คกง.) เมื่อวันที่ 18 ก.พ.64 ประกอบด้วย
1.โครงการพัฒนาระบบสื่อสารสั่งการศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขระดับกระทรวงและระดับเขตสุขภาพเป็น Smart EOC เพื่อรองรับภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรอบวงเงิน 89.91 ล้านบาท เพื่อสร้างระบบส่งสาร สั่งการหน่วยงานเครือข่ายให้มีเสถียรภาพ และใช้ทรัพยากรเทคโนโลยีด้านสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อความสะดวกในการติดต่อประสานงาน
2.โครงการภายใต้แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์ทางการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อแก้ปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19 จำนวน 20 โครงการ กรอบวงเงิน 665.09 ล้านบาท อาทิ โครงการพัฒนาและยกระดับการให้บริการทางการแพทย์ เพื่อรองรับการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในอนาคต และการเปลี่ยนผ่านสู่หลังการแพร่ระบาด (New Normal) ของกรมการแพทย์ วงเงิน 83.10 ล้านบาท โครงการเพิ่มศักยภาพการรักษาผู้ป่วยโคโรนาไวรัส โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วงเงิน 51.00 ล้านบาท โครงการปรับปรุงหอผู้ป่วยวิกฤต ICU NEGATIVE PRESSURE COVID-19 ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วงเงิน 121.60 ล้านบาท เป็นต้น
3.โครงการฯ ด้านวิจัย จำนวน 3 โครงการ กรอบวงเงิน 44.58 ล้าน ได้แก่ โครงการการขยายผลจากเทคโนโลยีผลิตน้ำยาสกัด RNA เพื่อการตรวจโรคโควิด-19 โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และโครงการแบตเตอรี่สำหรับ PAPR และแบตเตอรี่ทดแทนสำหรับอุปกรณ์การแพทย์เคลื่อนที่ โครงการการผลิตชั้นกรองหน้ากาก N95 โดยอาศัยสมบัติทริโบอิเล็กทริกของเส้นใยนาโนธรรมชาติและนาโนซิลเวอร์ ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น
สำหรับหลักเกณฑ์ที่ใช้วิเคราะห์และกลั่นกรองโครงการฯ เงินกู้ ต้องเกี่ยวข้องกับการเฝ้าระวัง ป้องกัน และรักษาโรคโควิด-19 มีความพร้อมในการดำเนินการ และไม่สามารถเข้าถึงแหล่งงบประมาณอื่นได้นอกเหนือจากเงินกู้ตามพ.ร.ก.กู้เงินฯ
นอกจากนี้ ที่ประชุมครม.รับทราบผลการดำเนินงานโครงการที่เคยได้รับอนุมัติจากครม. ตามพ.ร.ก.กู้เงินฯ 1 ล้านล้านบาท แต่ผลเบิกจ่ายต่ำกว่า 10% มีจำนวน 141 โครงการ จาก 209 โครงการ โดยมอบหมายให้หน่วยงานเร่งดำเนินโครงการที่ครม.อนุมัติไปแล้วให้ใช้จ่ายตามพ.ร.ก.กู้เงินฯโดยเร็ว หากไม่สามารถลงนามหรือไม่มีแผนใช้จ่ายงบประมาณที่ชัดเจนภายใน 30 เม.ย. จะให้ยุติการดำเนินโครงการ พร้อมส่งคืนเงินกู้เหลือจ่ายตามขั้นตอนด้วย