การพัฒนาองค์กรขนาดใหญ่ในปัจจุบันเริ่มให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานไปพร้อมกับการพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้สามารถนำเทคโนโลยีเหล่านั้นมาใช้ในการดำเนินงานเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน ภายใต้สถานการณ์ของการแข่งขันขององค์กรทั้งทางธุรกิจและหน่วยงานราชการที่ต้องแสดงให้เห็นถึงสมรรถนะตามตัวชี้วัด การพัฒนาอย่างมีทิศทางภายใต้นโยบายที่สอดคล้องกับความเป็นปัจจุบันจะสามารถขับเคลื่อนพันธกิจองค์กรให้ก้าวต่อไปข้างหน้า ได้ สำหรับมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ใช้นโยบายในการปรับเปลี่ยนมหาวิทยาลัยขอนแก่น KKU Transformation โดยกำหนดยุทธศาสตร์ เสริมสร้างความก้าวหน้าและยั่งยืนโดยบริหารจัดการเปลี่ยนแปลง (Striving for progress and sustainability by managing changes) ภายใต้เป้าหมาย 3 ด้านคือ : People Ecological และ Spiritual ที่ครอบคลุมพันธกิจการดำเนินงานของสถาบันการศึกษานำพาองค์กรไปสู่จุดสูงสุดตามวิสัยทัศน์มหาวิทยาลัยวิจัยและพัฒนาชั้นนำระดับโลก
ความเป็นอยู่และสวัสดิภาพความปลอดภัยของบุคลากรนักศึกษาถือเป็นนโยบายที่มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญ ด้วยถือว่าฐานรากของการพัฒนาองค์กรเกิดจากความเข้มแข็งที่มาจากทรัพยากรบุคคลที่ควรได้รับการดูแลให้ได้รับความสะดวกปลอดภัยและเกิดความมั่นใจจากระบบการดูแลที่ดีตามกลยุทธ์ Great Place to Live
ผศ.ดร.สมพงษ์ สิทธิพรหม ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายรักษาความปลอดภัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยว่า จากนโยบายของผู้บริหารโดยกรรมการสภามหาวิทยาลัย ได้ถูกขับเคลื่อนโดยคณะผู้บริหารภายใต้การนำของ รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ใช้นโยบายในการปรับเปลี่ยนมหาวิทยาลัยขอนแก่น KKU Transformation ใน 3 เรื่องคือ HR Transformation Education Transformation และ Digital Transformation ในส่วนของการวางมาตรการในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยของเรานั้นอยู่ใน Ecological คือระบบนิเวศน์ที่ดีน่าอยู่ของมหาวิทยาลัย โดยมีกลยุทธ์ที่สนับสนุนในยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยคือ Great Place to Live การดำเนินงานด้านการรักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยขอนแก่นเราได้ให้ความสำคัญกับการออกแบบระบบเพื่อรองรับ Infrastructure ในเรื่องของเครือข่ายการสร้างข้อมูลขนาดใหญ่ Big Data ซึ่งแบ่งออกเป็นส่วนๆที่สำคัญ เช่น ข้อมูลทั่วไป เช่นพื้นที่ ลานจอดรถ ที่อยู่ภายใต้โครงการจัด Zoning ที่กำลังดำเนินการ
มหาวิทยาลัยขอนแก่นให้ความสำคัญในเรื่องสวัสดิภาพความปลอดภัยของนักเรียน นักศึกษา บุคลากรทุกคนตลอดจนประชาชนที่เกี่ยวข้องและเข้ามาในพื้นที่ของเราซึ่งเรามีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและเฝ้าระวังเหตุตลอดเวลา แต่ทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นรองรับความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพในหลายด้าน ทั้งการจราจร การจัดการพื้นที่เพื่อบริการกิจกรรมต่างๆ และการเติบโตของชุมชนรอบข้าง ทำให้เราได้พยายามที่จะนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น เราได้ติดตั้งระบบ CCTV เพื่อสอดส่องดูแลความปลอดภัยทั้งบุคคลและทรัพย์สินทางราชการ ไปตามอาคารสถานที่ ลานกิจกรรม เส้นทางจราจรรวมถึงจำนวน 1200 ตัว โดยในจำนวนเหล่านี้มีกล้องจำนวนหนึ่งที่เราได้ติดตั้งระบบ AI กล้องอัจฉริยะที่สามารถระบุอัตลักษณ์บุคคลกับฐานข้อมูลได้ นอกจากนี้เรามีระบบ Emergency Call Point ที่เป็นจุดในการรับแจ้งเหตุฉุกเฉินขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน 25 จุดที่รวมถึงในพื้นที่วิทยาเขตหนองคายด้วย ส่วนในปีหน้าเราก็จะเริ่มโครงการที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลความปลอดภัยที่สำคัญอีกโครงการหนึ่งคือ Smart Gate ที่ขณะนี้ได้รับการเห็นชอบและอนุมัติงบประมาณแล้ว
“ Smart Gate เป็นการนำฐานข้อมูลและเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการบริหารจัดการ เพื่อคัดกรองรถยนต์ที่ผ่านเข้าออกในพื้นที่มหาวิทยาลัย โดยเรามีเทคโนโลยีในการบันทึกข้อมูลเช่นทะเบียนรถยนต์ สีรถ ยี่ห้อ ที่ระบุเจ้าของรถยนต์คันนั้นๆ ซึ่งเราใช้ในการติดตามได้ถึงเส้นทางและสถานที่จอด ในเบื้องต้นเราต้องมีการทำฐานข้อมูลก่อนซึ่งในปีนี้คาดว่าจะเป็นการเริ่มต้นของโครงการที่อยู่ระหว่างการประชุมคณะกรรมการดำเนินการเพื่อกำหนดเวลาและขั้นตอน โดยเราหวังที่จะให้โครงการ Smart Gate เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลรถยนต์หรือบุคคลที่เข้าออกมหาวิทยาลัยรวมทั้งการเข้าใช้ส่วนบริการลานจอดลานกิจกรรมต่างๆ โดยผลจากโครงการยังนำไปสู่การบริหารจัดการส่วนบริการต่างๆเช่นลานจอดรถเพื่อให้มีความสะดวกต่อบุคลากรและผู้เข้ามาในพื้นที่ ยังรวมไปถึงการอำนวยความสะดวกในรูปแบบแอปพลิเคชั่นสำหรับผู้ที่ต้องการรู้ข้อมูลว่ามีลานจอดรถที่จุดใดว่างสำหรับจอดรถได้เมื่อเดินทางเข้ามา เมื่อเริ่มโครงการผู้ที่จะผ่านเข้าออกมหาวิทยาลัยจะต้องมาลงทะเบียนเป็นข้อมูลไว้ ซึ่งรวมถึงบุคลากรของเราด้วย ทั้งนี้เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถแยกแยะเฝ้าดูรถที่เข้ามาโดยไม่ได้อยู่ในฐานข้อมูล ทั้งหมดนี้เพื่อความปลอดภัยในการสอดส่องดูแลให้กับทุกคน” ผศ.ดร.สมพงษ์ สิทธิพรหม กล่าว
ผศ.ดร.สมพงษ์ สิทธิพรหม ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายรักษาความปลอดภัย กล่าวเสริมอีกว่า ในการขับเคลื่อนโครงการ Smart Gate นั้นเรายังมองเห็นถึงประโยชน์ในด้านการศึกษาค้นคว้าวิจัยของคณาจารย์ของเราด้วยเพราะการจัดทำระบบฐานข้อมูลเหล่านี้จะเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของมหาวิทยาลัยที่ใช้ในการศึกษาพัฒนาได้ ส่วนในเรื่องการนำเทคโนโลยีมาเพื่อการสนับสนุนการดำเนินการนั้นเรามองทั้งในส่วนของเทคโนโลยีที่มาจากการค้นคว้าพัฒนาโดยบุคลากรของมหาวิทยาลัยขอนแก่นเองซึ่งอยู่ระหว่างการประสานพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ของเราเอง และการใช้เทคโนโลยีจากภายนอกที่เน้นประสิทธิภาพและความคุ้มค่าของงบประมาณ ซึ่งในเบื้องต้นเราได้เคยไปศึกษาดูงานในต่างสถาบันที่เริ่มมีการดำเนินงานไปก่อนหน้านี้แล้วเพื่อดูถึงจุดเด่นข้อจำกัดต่างๆ นำมาปรับใช้กับระบบที่เรากำลังจะดำเนินการ
การพัฒนาที่ก้าวกระโดดของมหาวิทยาลัยขอนแก่นในเรื่องดังกล่าวยังมีสิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการควบคู่กันไปคือการพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้รองรับกับความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สร้างความมั่นใจให้กับผู้รับบริการ
นายเกษม ภูธรรมะ ผู้อำนวยการกองป้องกันและรักษาความปลอดภัย ในฐานะผู้ที่กำกับดูแลการดำเนินงานตามนโยบายมาสู่การปฏิบัติด้านการรักษาความปลอดภัย เผยว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนางานด้านการรักษาความปลอดภัยโดยการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในหลายด้าน โดยในส่วนของบุคลากรเจ้าหน้าที่ในสังกัดของกองป้องกันและรักษาความปลอดภัยซึ่งมีจำนวน 210 แบ่งเป็น งานรักษาความปลอดภัยและการจราจร งานสืบสวนและการข่าว งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และ งานเทคโนโลยีความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่เป็นบุคลากรในตำแหน่งลูกจ้างมหาวิทยาลัยที่เปิดรับในวุฒิการศึกษาที่ไม่สูงนัก ทักษะในเรื่องของการใช้เครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ยังต้องการการพัฒนาเพิ่มพูนความรู้ แต่ทั้งนี้เพื่อตอบรับนโยบาย KKU Transformation ในการพัฒนากำลังคนให้มีความพร้อมเพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ เราได้ส่งเสริมให้บุคลากรได้รับการอบรมเพิ่มพูนความรู้ทักษะผู้ปฏิบัติงานให้มีความชำนาญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคลากรบางคนที่มีทักษะเบื้องต้นมาก่อนแล้วให้สามารถนำความรู้มาถ่ายทอดให้กับผู้ปฏิบัติอื่นๆได้ นอกจากนี้คือการกระตุ้นให้บุคลากรได้เห็นความสำคัญของการใช้เทคโนโลยี การจัดหาอุปกรณ์เครื่องมือเช่นคอมพิวเตอร์ที่ขอรับความอนุเคราะห์มาจากหน่วยงานต่างๆมาเพื่อให้ฝึกฝนการใช้งาน การปรับกระบวนงานที่มีการใช้แอปพลิเคชั่นในการรายงานผลแจ้งเหตุ ซึ่งบุคลกรทุกคนกระตือรือร้นและพร้อมที่จะเรียนรู้นำทักษะมาใช้งาน
ในส่วนของการสนับสนุนเชิงนโยบาย นายเกษม ภูธรรมะ เผยว่าโครงการพัฒนาต่างๆ มหาวิทยาลัยได้ให้โอกาสในการไปศึกษาดูงานเพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือ ตลอดจนอนุมัติงบประมาณในโครงการสำคัญๆต่อเนื่องมา และในปีหน้ากองป้องกันและรักษาความปลอดภัยได้รับการอนุมัติกรอบอัตรากำลังนักสารสนเทศ 1 ตำแหน่งที่จะมาเสริมการพัฒนางานทางด้านดิจิทัล ในขณะเดียวกันเราได้แบ่งโครงสร้างของหน่วยงานเพื่อรองรับการใช้เทคโนโลยีตามนโยบายของมหาวิทยาลัยขึ้นมาคือ งานเทคโนโลยีความปลอดภัย เพื่อที่จะทำให้การทำงานนี้มีความชัดเจนขึ้นมา
“โครงการ Smart Gate เป็นความก้าวหน้าและวิสัยทัศน์ของการพัฒนาที่ดีโดยมีเป้าหมายเพื่อความปลอดภัยของบุคลากรนักศึกษาตลอดจนประชาชนที่เข้ามาในพื้นที่ด้วยเทคโนโลยีทีทันสมัยและเป็นเครื่องมืออำนวยความสะดวกในการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการเพิ่มประสิทธิภาพงาน ซึ่งทั้งนี้ความสำเร็จของโครงการยังต้องอาศัยความร่วมมือจากบุคลากรในการร่วมดำเนินการนับแต่การลงทะเบียนทำฐานข้อมูล โดยเราเองต้องสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ทุกคน” นายเกษม ภูธรรมะ กล่าว
บนเวทีของสถาบันการศึกษาในวันนี้ชื่อของมหาวิทยาลัยขอนแก่นถูกจัดอันดับให้เป็นสถาบันการศึกษาชั้นแนวหน้าที่ทุกคนยอมรับในเรื่องคุณภาพทางด้านวิชาการ ผลงานวิจัย ตลอดจนคุณภาพทางการศึกษา แม้กระนั้นสถาบันแห่งนี้ไม่ได้ละเลยในการสร้างองค์กรที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของการเป็นสถานที่น่าอยู่น่าเรียนมีความสะดวกปลอดภัยเอื้อต่อการสร้างสรรค์พัฒนางานผ่านเป้าหมายด้าน Ecological ทั้งกลยุทธ์ Great Place to Live และ Best place to work ที่ย้ำให้เห็นถึงภาพชัดในเรื่องความใส่ใจเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม
อุดมชัย สุพรรณวงศ์ / สัมภาษณ์-เรียบเรียง
ภาพ / กองป้องกันและรักษาความปลอดภัย
KKU and the safety technology for an ideal ‘Great Place to Live’
https://www.kku.ac.th/8212