มข. ผนึกกำลัง ส.ป.ก. พะเยา ส่งเสริมฝายชะลอน้ำชนิดแกนดินซีเมนต์ แก้ปัญหาน้ำแล้ง สร้างชีวิตยั่งยืนให้เกษตรกรในจังหวัดพะเยา

       สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดย รศ.ดร.ศุภสิทธิ์ คนใหญ่ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ เดินหน้าส่งเสริมโครงการฝายชะลอน้ำชนิดแกนดินซีเมนต์ในพื้นที่นำร่องจังหวัดพะเยา เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในศาสตร์พระราชาและการพัฒนาที่ยั่งยืนให้กับเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน

    โครงการนี้จัดขึ้นโดย สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดพะเยา มีเป้าหมายหลักในการเสริมสร้างองค์ความรู้และส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากฝายชะลอน้ำชนิดแกนดินซีเมนต์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำและสนับสนุนการเกษตรในพื้นที่นอกเขตชลประทาน โดยมีเกษตรกรจากตำบลภูซาง อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา จำนวน 30 คน เข้าร่วมการอบรมและกิจกรรมภาคสนาม  รศ.ดร.ศุภสิทธิ์ คนใหญ่ เปิดเผยว่า สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ยังได้ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาในโครงการนี้ โดยร่วมวางแผน ออกแบบ และถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับสำนักงานปฏิรูปที่ดินและกลุ่มเกษตรกรอย่างใกล้ชิด การเป็นที่ปรึกษาในครั้งนี้เน้นการนำงานวิจัย”การศึกษาคุณลักษณะฝายแกนดินซีเมนต์สำหรับการแก้ไขปัญหาความยากจนลดเหลื่อมล้ำ” ซึ่งเป็นการวิจัยในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานน้ำและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติที่เหมาะสมกับพื้นที่มาประยุกต์ใช้ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืน

ฝายชะลอน้ำชนิดแกนดินซีเมนต์ ที่ได้รับการพัฒนาภายใต้การแนะนำของทีมที่ปรึกษา มีคุณสมบัติเด่นดังนี้:

  • ช่วยชะลอการไหลของน้ำ และเก็บกักน้ำไว้ในดิน เพิ่มความชุ่มชื้นในพื้นที่บริเวณฝายจาก 1 เดือน เป็น 3-4 เดือน
  • สามารถสร้างได้ในทุกสภาพพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ราบหรือพื้นที่สูง
  • ต้นทุนต่ำกว่าฝายประเภทอื่น แต่มีความคุ้มค่าในการใช้งานสูง
  • ลดปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม พร้อมเพิ่มโอกาสในการทำการเกษตร

            นอกจากนี้ รศ.ดร.ศุภสิทธิ์ คนใหญ่ ยังชี้ว่า การทำฝายชนิดนี้ช่วยลดความเหลื่อมล้ำของเกษตรกร โดยเฉพาะในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ที่ต้องเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับการเกษตร เมื่อมีน้ำใช้อย่างต่อเนื่อง เกษตรกรสามารถวางแผนการผลิต สร้างรายได้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างยั่งยืน

“โครงการนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการนำ ศาสตร์พระราชา และ งานวิจัยเชิงปฏิบัติ มาสู่การพัฒนาชุมชน พร้อมสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยขอนแก่นในการสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนในสังคมไทยต่อไป”

 

Scroll to Top