มข.เปิดตัว AI แปลผลอายุร่างกายจากผลเลือด หนุนศาสตร์ชะลอวัย ชวนคนไทยชะลอโรค

เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2566  มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดตัวโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์แปลผลอายุร่างกายและอวัยวะสำคัญ ตับ ไต หัวใจ ตับอ่อนจากผลตรวจเลือด สะท้อนภาวะร่างกายแบบเข้าใจง่าย โดยมีศาสตราจารย์ธิดารัตน์ บุญมาศ รองอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและวิสาหกิจ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวเปิดงาน พร้อมด้วยศาสตราจารย์พัชรี  เจียรนัยกร นักวิจัยคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และหัวหน้าโครงการดัชนีความเยาว์วัยของร่างกายแบบองค์รวมจากปัญญาประดิษฐ์ข้อมูลสุขภาพ  รองศาสตราจารย์ จุรีรัตน์  ดาดวง คณบดีคณะเทคนิคการแพทย์ และมีผู้ช่วยศาสตราจารย์สมชาย เชื้อวัชรินทร์ ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีชีวภาพทางการแพทย์ (Center of Excellence on Medical Biotechnology : CEMB) ศาตราจารย์ศันสนีย์ ไชยโรจน์ ประธานคณะอนุกรรมการ แผนงานกลุ่มสุขภาพและการแพทย์ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ร่วมแถลงข่าว ทั้งนี้ทีผู้บริหารทั้งภาครัฐ เอกชน รวมทั้งสื่อมวลชนร่วมงานจำนวนมาก ณ ห้องประชุมสารสิน ชั้น 2 อาคารสิริคุณากร มหาวิทยาลัยขอนแก่น

           ศาสตราจารย์ธิดารัตน์ บุญมาศ รองอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและวิสาหกิจ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้พัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ อาทิ อุปกรณ์ทางการแพทย์ (medical device) ชุดตรวจโรค (Lab diagnostics) และ ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence; AI) เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตแก่ประชาชนชาวไทยและระดับนานาชาติ  เพื่อรองรับ medical hub ที่กำลังจะเกิดขึ้น ฉะนั้น  โปรแกรมปัญญาประดิษฐ์แปลผลอายุร่างกายและอวัยวะสำคัญ ตับ ไต หัวใจ ตับอ่อนจากผลตรวจเลือด สะท้อนภาวะร่างกายแบบเข้าใจง่าย (Health AI for Biological Age and Importance organs) หรือ AI for healthcare   จึงเกิดขึ้น โดยความร่วมมือจากทีมนักวิจัยจากหลากหลายคณะ บูรณาการสร้างนวัตกรรมจากฐานข้อมูลสุขภาพที่มีอยู่ซึ่งครอบคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตัวโปรแกรมนี้เป็นตัวช่วยให้บุคคลระมัดระวังเรื่องการพักผ่อน พฤติกรรมและการบริโภค โดยหวังว่าโปรแกรมนี้จะถูกนำไปใช้เพื่อส่งเสริมสุขภาพของประชาชนโดยรวมของประเทศได้”

           ศาสตราจารย์พัชรี  เจียรนัยกร นักวิจัยคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และหัวหน้าโครงการดัชนีความเยาว์วัยของร่างกายแบบองค์รวมจากปัญญาประดิษฐ์ข้อมูลสุขภาพ   เผยว่า การวิจัยเป็นการนำฐานข้อมูลสุขภาพที่มีอยู่ซึ่งครอบคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากเขตสุขภาพ 7 8 9 10 โดยใช้ข้อมูลผู้มีสุขภาพดี 59,675 ชุด และฐานข้อมูลจากผู้เข้าร่วมโครงการเพื่อเก็บข้อมูลสุขภาพเชิงลึกอีกประมาณ 3,000 ราย ข้อมูลที่เก็บใหม่จะมีการเก็บสมการพยากรณ์อายุชีวภาพจากความยาวเทโลเมียร์ หรือส่วนปลายของโคโมโซม เมื่อร่างกายเรามีการแบ่งตัวไปเรื่อย ๆ ตามอายุที่เพิ่มขึ้น ส่วนปลายหรือที่เรียกว่าเทโลเมียร์ จะมีการหดสั้นลง ในทุก ๆ รอบในการแบ่งตัว  ผลการวิจัยพบว่าค่าการตรวจผลเลือดมีสมการเกี่ยวเนื่องกับอายุที่เพิ่มขึ้นตามวัย เมื่อนำมาประมวลผลด้วยปัญญาประดิษฐ์ จนกระทั่งนำมาสู่การใช้ได้จริงในการประเมินอายุร่างกายและอวัยวะสำคัญ 4 อวัยวะได้แก่ ตับ ตับอ่อน ไต หัวใจ มีความแม่นยำเมื่อเทียบกับวิธีมาตรฐาน ร้อยละ 83.7 ในเพศหญิง และ 81.5 ในเพศชาย โปรแกรม Health AI จะทำหน้าที่ประมวลข้อมูลที่ได้จากผลตรวจเลือด ประมวลออกมาเป็นค่าอายุร่างกาย เช่นผลทดสอบการทำงานของหัวใจ จะประมวลค่าไขมันในเลือด คอเลสเตอรอล  ไตรกลีเซอไรด์  ไขมันเลว และไขมันดี ในโปรแกรมจะแสดงค่าผลเลือดความเสี่ยงการทำงานของหัวใจ  ค่าปกติจะอยู่ที่สีเหลือง หรือเขียว ยิ่งอยู่ไปทางสีแดงแปลว่า อันตรายต้องรีบปรึกษาแพทย์ อัลกอริทึมจะแปลคำแนะนำตามผลแลปที่ได้ในแต่ละบุคคล  โดยมีเป้าหมายว่า ถ้าเราจะส่งเสริม ให้คนมีสุขภาพดี จึงทำให้ร่างกายใกล้เคียงกับอายุจริง หรือจะส่งเสริมให้ดีกว่านั้นคือการชะลอวัย ทำให้อายุร่างกายอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงของเรา กระตุ้นเตือนให้ประชาชนใส่ใจรักสุขภาพมากขึ้น นั่นคือเป้าหมายของโครงการ

          นายแพทย์ชิษณุ สอาดสุด ผู้อำนวยการฝ่ายด้านการแพทย์ (Medical director) ในเครือ อาร์ไอเอ               แลบอราทอรี่ ซึ่งได้ทดลองนำโปรแกรมประกอบการรายงานสุขภาพ กล่าวว่า “ผู้รับบริการตรวจสุขภาพเปิดใจรับผลตรวจของตนเองมากขึ้น มีความสนใจเปรียบเทียบค่าผลตรวจต่างๆ และในส่วนของแพทย์สามารถวางเป้าหมาย กลยุทธ์ และให้คำแนะนำได้ง่ายขึ้น สามารถกำหนดเป้าหมายสุขภาพที่มีขอบเขตชัดเจนร่วมกันได้ง่ายยิ่งขึ้น”

ผู้ช่วยศาสตราจารย์สมชาย เชื้อวัชรินทร์ ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีชีวภาพทางการแพทย์ (Center of Excellence on Medical Biotechnology : CEMB) ที่มีมหาวิทยาลัยมหิดลเป็นแกนนำ ได้กล่าวว่า  นวัตกรรมนี้ได้สนับสนุนทุนวิจัยปีงบประมาณ 2561-2564 แก่คณะวิจัยในรูปแบบคลัสเตอร์หรือกลุ่มวิจัยที่มี ศาสตราจารย์พัชรี เจียรนัยกูร คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นหัวหน้าคลัสเตอร์ โดยมีทีมวิจัยจากหลายมหาวิทยาลัย ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยขอนแก่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล ในหลายคณะได้แก่คณะเทคนิคการแพทย์ สาธารณสุขศาสตร์ แพทยศาสตร์ศิริราช วิทยาศาสตร์และวิทยาลัยคอมพิวเตอร์ เชื่อว่านวัตกรรม Health AI จะช่วยประชาชนทั่วไปได้เข้าใจผลการตรวจสุขภาพของตนโดยง่าย และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้มีสุขภาพกายที่ดีต่อไป

ศาสตราจารย์ศันสนีย์ ไชยโรจน์ ประธานคณะอนุกรรมการ แผนงานกลุ่มสุขภาพและการแพทย์ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) กล่าวว่า “Health AI เป็นหนึ่งในงานวิจัยที่ยกระดับเป็นนวัตกรรมจนสู่การเปิดบริการเชิงพาณิชย์ภายใต้การดำเนินงานของเครือข่ายศูนย์ชุดตรวจวินิจฉัยโรค โดย บพข. ให้การสนับสนุนงานประมาณดำเนินงานของศูนย์พัฒนานวัตกรรมและมาตรฐานทางเทคนิคการแพทย์และกายภาพบำบัด (Center for Innovation and Standard for Medical Technology and Physical Therapy; CISMaP) ซึ่งเป็นหนึ่งใน 7 เครือข่ายศูนย์ชุดตรวจวินิจฉัยโรค ทั้งนี้แผนงานสุขภาพและการแพทย์ บพข. มีพันธกิจสำคัญในการสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องมือแพทย์ (Medical Devices) และเพิ่มทักษะ (Skills) ด้านการวิจัยจนถึงระบบมาตรฐานสากล โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในอนาคตประเทศไทยจะมีศักยภาพในการผลิตและยกระดับสู่การแข่งขันในระดับนานาชาติ”

 

ทั้งนี้ โปรแกรมปัญญาประดิษฐ์แปลผลอายุร่างกายและอวัยวะสำคัญ ตับ ไต หัวใจ ตับอ่อนจากผลตรวจเลือด สะท้อนภาวะร่างกายแบบเข้าใจง่าย (Health AI for Biological Age and Importance organs) หรือ AI for healthcare  ได้เปิดข้อตกลงความร่วมมือรองรับการใช้งานในกลุ่มสถานบริการสุขภาพ/บริษัท health technology สถานประกอบการที่สนใจติดต่อผ่านฝ่ายนวัตกรรมและวิสาหกิจ มหาวิทยาลัยขอนแก่น คลิกhttps://innoprise.kku.ac.th/   รวมถึงการใช้งานรายบุคคลในรูปแบบแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ โดยประชาชนที่มีผลตรวจเลือดแล้วสามารถใช้บริการโปรแกรมผ่านการสแกนคิวอาร์โค้ดด้านล่าง

โปรแกรมปัญญาประดิษฐ์แปลผลอายุร่างกายและอวัยวะสำคัญ ตับ ไต หัวใจ ตับอ่อนจากผลตรวจเลือด สะท้อนภาวะร่างกายแบบเข้าใจง่าย (Health AI for Biological Age and Importance organs) หรือ AI for healthcare  จึงเป็นเทรนด์ใหม่ด้านนวัตกรรมเครื่องมือแพทย์ที่ใช้ AI เป็นส่วนช่วยในบริการด้านการแพทย์ในยุคที่ทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีเพียงแค่ผ่านหน้าจอมือถือ  สอดคล้องกับการช่วยลดถอนงานของบุคลากรทางการแพทย์ที่มีอยู่อย่างจำกัด  เมื่อมีการใช้งานจากทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างกว้างขวางแล้ว ในท้ายที่สุดประโยชน์จะตกอยู่กับประชาชนและระบบของสาธารณสุขของประเทศที่เน้นสาธารณสุขเชิงป้องกัน ที่จะช่วยลดภาระงบประมาณด้านนี้ของประเทศและรองรับสังคมสูงวัยอย่างมีคุณภาพ

ข่าว/ ภาพ : จิราพร  ประทุมชัย

KKU launches an AI that shows the biological age and important organs from blood test, which assists in slowing down aging and diseases

https://www.kku.ac.th/15888

 

 

Scroll to Top