25 มกราคม 2566 ครบรอบวันคล้ายวันสถาปนามหาวิทยาลัยขอนแก่น ก้าวย่างของการเดินทางมาถึง 59 ปี มข. ตอกย้ำการเป็นมหาวิทยาลัยแห่งการสร้างสรรค์และพัฒนาเพื่อสังคม และพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ปีที่ 60 ในปี พ.ศ.2567 อย่างเข้มแข็งและมั่นคงต่อไป
“การตั้งมหาวิทยาลัยขอนแก่นเพิ่มขึ้นอีกแห่งหนึ่งนั้นเป็นคุณอย่างยิ่ง เพราะทำให้การศึกษาชั้นสูงขยายออกไปถึงภูมิภาคที่สำคัญที่สุดส่วนหนึ่งของประเทศ ซึ่งต่อไปจะเป็นผลดีแก่การพัฒนา ยกฐานะความเป็นอยู่ของประชาชนในภูมิภาคนี้เป็นอย่างยิ่ง ความสำเร็จในการตั้งมหาวิทยาลัยขอนแก่นจึงเป็นความสำเร็จที่ทุกคนควรจะยินดี” พระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดมหาวิทยาลัยขอนแก่นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พุทธศักราช 2510
มหาวิทยาลัยขอนแก่น นับเป็นสถาบันอุดมศึกษาแห่งแรกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ก่อตั้งขึ้นตามนโยบายการขยายการศึกษาระดับอุดมศึกษาสู่ส่วนภูมิภาคตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 1 ของประเทศ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนากำลังคนและองค์ความรู้เพื่อการแก้ปัญหาให้กับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ และมีประชากรเป็น 1 ใน 3 ของประเทศ ในปี พ.ศ. 2505 รัฐบาล จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีมติให้จัดตั้งสถาบันการศึกษาชั้นสูง ด้านวิศวกรรมศาสตร์ และเกษตรศาสตร์ ขึ้นที่จังหวัดขอนแก่น โดยปี พ.ศ. 2506 คณะอนุกรรมการ ฯ ได้ตกลงเลือกบ้านสีฐานเป็นที่ตั้งมหาวิทยาลัย โดยมีเนื้อที่ประมาณ 5,500 ไร่ ห่างจากตัวเมืองขอนแก่น 4 กิโลเมตร ต่อมาเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2507 ได้มีการก่อสร้างอาคาร “คณะวิทยาศาสตร์-อักษรศาสตร์” พร้อมรับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยรุ่นแรก ในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2507 จำนวนทั้งสิ้น 107 คน และปี พ.ศ. 2509 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยขอนแก่น และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2509 ซึ่งถือเป็น วันสถาปนามหาวิทยาลัย โดยมีปณิธานการเป็นมหาวิทยาลัยแห่งการ “อุทิศเพื่อสังคม (Social Devotion)”
หากจะนับจากการก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน 59 ปี มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีการพัฒนาการ มาโดยลำดับ ซึ่งสามารถแบ่งพัฒนาการตามความสำเร็จของการบริหารและพัฒนามหาวิทยาลัยได้ 3 ยุค ดังนี้
ยุคที่หนึ่ง เป็นยุคแห่งการก่อตั้งและขยายตัวของมหาวิทยาลัย เป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างยาวนานเกือบ 2 ทศวรรษ อยู่ในช่วงปี พ.ศ. 2507- 2526 ในช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาแห่งการก่อตั้งและการขยายตัวของมหาวิทยาลัยอย่างต่อเนื่อง
ยุคที่สอง เป็นยุคแห่งการพัฒนาและสร้างองค์ความรู้ ในการพัฒนามหาวิทยาลัยในแต่ละช่วง นอกจากจะพัฒนาหลักสูตรเพื่อผลิตบัณฑิตที่ตอบสนองต่อความต้องการของชุมชนและสังคมแล้ว งานวิจัยก็เป็นหน้าที่ ที่สำคัญของมหาวิทยาลัย โดยเป็นการวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้ และการให้บริการวิชาการแก่ชุมชนและสังคมควบคู่กันไป ในช่วงปี พ.ศ. 2527 – 2546 จึงเป็นยุคแห่งการพัฒนาและสร้างองค์ความรู้สู่การบริการชุมชน ทั้งการจัดตั้งหน่วยงานการพัฒนาหลักสูตรเพิ่มขึ้น และมีการพัฒนาขีดความสามารถด้านการวิจัยเพิ่มมากขึ้น
ยุคที่สาม กับการก้าวสู่การเป็นมหาวิทยาลัยแห่งการวิจัย และมหาวิทยาลัยวิจัยชั้นนำ โดยยุคนี้เริ่มจากปี พ.ศ. 2557 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงจากภาวะโลกาภิวัตน์ ที่มีความเจริญก้าวหน้าทางวิชาการและเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดด การเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจและสังคมที่มีผลกระทบไปทั่วโลก รวมทั้งนโยบายการเปิดการค้าเสรีของประเทศ ประกอบกับประเทศไทยเริ่มมีการปฏิรูประบบการบริหารราชการให้มีเป้าหมายมุ่งผลสัมฤทธิ์โดยการนำแนวคิดการบริหารเชิงกลยุทธ์ (Strategic management) และระบบการบริหารคุณภาพเข้ามาใช้ในหน่วยงานราชการ ในช่วงนี้มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีความเจริญเติบโต หน่วยงานมีขนาดใหญ่ขึ้น โดยเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2558 มหาวิทยาลัยยังได้ปรับเปลี่ยนสถานภาพจากมหาวิทยาลัยที่เป็นส่วนราชการไปเป็น “มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ”
และในยุคนี้มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้พัฒนาตนเองให้เป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ตลอดชีวิตของสังคม (Lifelong Learning Center) โดยได้ทำการปรับปรุงพื้นที่ภายในมหาวิทยาลัยให้เป็นอุทยานการเรียนรู้ของสังคม เช่น พื้นที่บริเวณบึงสีฐานและสนามกีฬาของมหาวิทยาลัย ถูกกำหนดให้เป็นสถานที่ออกกำลังกาย (Sport Park) พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกสามารถเข้ามาใช้พื้นที่ได้ มีการสร้างพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจังหวัดหนองคาย มีการเก็บรักษาพื้นที่ป่าดั้งเดิมและพื้นที่ศึกษานกธรรมชาตินานาชนิด มีการปรับพื้นที่ให้เป็นแหล่งความรู้ทางการเกษตรครบวงจร (Agro Park) และอุทยานศิลปวัฒนธรรม (Culture Park) เป็นต้น ที่สำคัญมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้รับการประเมินจากหน่วยงานภายนอกทั้งในระดับสถาบัน ระดับคณะ และระดับหลักสูตร โดยใช้เกณฑ์มาตรฐานการประเมินในระดับประเทศและระดับสากล เป็นการตอกย้ำถึงมาตรฐานด้านการบริหารที่มีคุณภาพ
จากการขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยขอนแก่น ตั้งแต่ยุคที่ 1 จนถึงยุคปัจจุบัน คือยุคที่ 3 กับก้าวย่างเข้าสู่ปีที่ 59 ในวันครบรอบวันคล้ายวันสถาปนามหาวิทยาลัย ในวันที่ 25 มกราคม 2566 มหาวิทยาลัยขอนแก่น ยังคงมีวิสัยทัศน์ในการมุ่งสู่ “มหาวิทยาลัยวิจัยและพัฒนาชั้นนำระดับโลก” โดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้จัดให้มหาวิทยาลัยขอนแก่นอีกเป็นหนึ่งสถาบันอุดมศึกษาในกลุ่มพัฒนาการวิจัยระดับแนวหน้าของโลก และมหาวิทยาลัย ได้สนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ตามนโยบายของประเทศ ส่งผลให้ปี 2565 มหาวิทยาลัยขอนแก่นถูกจัดอันดับโดย THE Impact Ranking ให้เป็นอันดับ 1 ของประเทศ ในด้าน SDG1 No Poverty และ SDG2 Zero Hunger และอันดับต้น ๆ ของประเทศใน SDG3 Good Health, SDG4 Quality Education และ SDG5 Gender Equality
นอกจากนั้น ในโอกาสครบรอบวันสถาปนามหาวิทยาลัย ในวันที่ 25 มกราคม 2566 มหาวิทยาลัยขอนแก่น ยังมีความมุ่งมั่นในการเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว (Green University) การเป็นศูนย์กลางด้านการวิจัยและการพัฒนาการศึกษาด้วยนวัตกรรมของภูมิภาคและประชาคมอาเซียน ศูนย์กลางด้านการแพทย์และการแก้ปัญหาสุขภาพภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมุ่งสู่การพัฒนาเมืองน่าอยู่และเมืองอัจฉริยะ (SMART CITY) สร้างนวัตกรรมเพื่อความเข้มแข็งของชุมชนและความผาสุกของสังคม โดยสะท้อนค่านิยมด้านการอุทิศเพื่อสังคม (Social Devotion) อันจะเป็นการตอกย้ำถึงการเป็น “มหาวิทยาลัยแห่งการสร้างสรรค์และพัฒนาเพื่อสังคม” และพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ปีที่ 60 ในปี พ.ศ.2567 อย่างเข้มแข็งและมั่นคงต่อไป
รวบรวม ข่าว : เบญจมาภรณ์ มามุข
ข้อมูล ภาพ : หอจดหมายเหตุ สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยขอนแก่น / กองสื่อสารองค์กร สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น