สำนักข่าว: ผู้จัดการออนไลน์
URL: https://mgronline.com/local/detail/9630000121055
วันที่เผยแพร่: 24 พ.ย. 2563
ศูนย์ข่าวขอนแก่น – ม.ขอนแก่น จัดเวิร์กชอปพัฒนาครูและยกระดับคุณภาพการศึกษา รุ่นที่ 2 มุ่งให้ความสำคัญส่งเสริมการจัดการการศึกษาอย่างมีคุณภาพ และส่งเสริมให้เกิดการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
วันนี้ (24 พ.ย.) ที่ห้องประชุมอาคารพจน์ สารสิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) รศ.ดร.ไมตรี อินทร์ประสิทธิ์ รองอธิการบดีฝ่ายการศึกษาและบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาวิชาชีพครูสำหรับอาเซียน เป็นประธานพิธีเปิดอบรมเชิงปฏิบัติการสำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษาโครงการพัฒนาครูและโรงเรียนเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง รุ่นที่ 2 มีครูผู้บริหาร และคณะครูจากโรงเรียนในโครงการ 351 คนร่วมอบรม
รศ.ดร.ไมตรี อินทร์ประสิทธิ์ รองอธิการบดีฝ่ายการศึกษาและบริการวิชาการ มข. รักษาการแทน ผอ.สถาบันวิจัยและพัฒนาวิชาชีพครูสำหรับอาเซียน กล่าวว่า ในนามมหาวิทยาลัยขอนแก่น รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น ศึกษานิเทศก์ ผู้บริหารโรงเรียนและคณะครูทุกท่าน และขอขอบคุณที่ท่านไว้วางใจให้มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาวิชาชีพของท่าน
เมื่อเดือนเมษายน 2563 มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้รับการจัดอันดับอยู่ในอันดับ 1 ของประเทศไทย 2 ปี ซ้อน ในฐานะเป็นมหาวิทยาลัยที่สร้างผลกระทบต่อมวลมนุษย์สูงเป็นอันดับ 1 ตามพันธะ Sustainable Development Goals ของสหประชาชาติ โดยได้คะแนนสูงสุดด้านการส่งเสริมการจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพ เท่าเทียมและตลอดชีพ ส่งเสริมความมีสุขภาพดีแก่ประชาชนทุกช่วงวัย ลดความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ทั้งในและต่างประเทศ ผสานการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนทั่วโลกเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
รศ.ดร.ไมตรี กล่าวด้วยว่า การจัดกิจกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่องวันนี้ นับเป็นกิจกรรมที่สำคัญของสถาบันฯ ที่แสดงให้เห็นว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่นให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมการจัดการการศึกษาอย่างมีคุณภาพ และส่งเสริมให้เกิดการผสานการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนตามพันธะ SDGs อย่างแท้จริง
กิจกรรมที่จัดครั้งนี้จะช่วยให้ผู้เข้าร่วมการอบรมทุกท่านมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับนวัตกรรมการศึกษาชั้นเรียน (Lesson Study) และวิธีการแบบเปิด (Open Approach) ซึ่งเป็นนวัตกรรมหลักของสถาบันฯ และได้ร่วมฝึกปฏิบัติในกิจกรรมฐานการเรียนรู้ทั้ง 5 ฐาน ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการดำเนินงานตามโครงการ
