สำนักข่าว: บ้านเมือง
URL: https://www.banmuang.co.th/news/region/201810
วันที่เผยแพร่: 8 ส.ค. 2563
มหาวิทยาลัยขอนแก่น คัดเลือก 7 ผลงานนวัตกรรมนำเสนอในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2563 (Thailand Research Expo 2020) งานเวทีระดับชาติที่นำเสนอ ผลงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่มีคุณภาพ เป็นการสร้างสรรค์ สร้างแรงขับเคลื่อนให้เกิดกลไกสนับสนุนและพัฒนาการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ เป็นฐานความรู้ไปสู่กลุ่มผู้ใช้ประโยชน์ ระดับประเทศและนานาชาติ ขับเคลื่อนให้เกิดนวัตกรรมทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงแนวทางการป้องกัน บรรเทา และเยียวยาจากการระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 พร้อมการอภิปรายเรื่อง “พลิกวิกฤตโควิด-19 ด้วยนวัตกรรมการแพทย์”โดย รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดี มข.
เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดขอนแก่น รายงานว่าโดยเมื่อวันที่ 2-6 สิงหาคม ที่ ผ่านมา ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายในระบบวิจัยทั่วประเทศ จัดงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2563 (Thailand Research Expo 2020)” ครั้งที่ 15 ภายใต้แนวคิด “วิจัยเพื่อพัฒนาประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน”โดยในปีนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นประธานในพิธีเปิดงาน ในวันอังคารที่ 4 สิงหาคม 2563 เวลา 10.00 น. ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร
กิจกรรมภายในงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2563 (Thailand Research Expo 2020) ครั้งที่ 15 มีทั้งรูปแบบ ภาคการประชุมหลากหลายประเด็นที่สำคัญต่อการพัฒนาและแก้ไขปัญหาของประเทศ ด้วยการวิจัยและนวัตกรรม ภาคนิทรรศการ ภาคนำเสนอผลงานวิจัยที่มีคุณภาพกิจกรรมประกวดนวัตกรรม สายอุดมศึกษา 2563 เป็นการส่งเสริมให้นิสิต นักศึกษาในทุกระดับจากสถาบันอุดมศึกษา ที่ได้บ่มเพาะความรู้ และแรงบันดาลใจในการพัฒนานวัตกรรม ได้นำเสนอผลงานนวัตกรรมและประกวดแข่งขัน และภาคการจัดกิจกรรมมอบรางวัล มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2563
ในโอกาสเดียวกันนี้ รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ให้เกียรติเป็นวิทยากรในการอภิปราย เรื่อง “พลิกวิกฤตโควิด-19 ด้วยนวัตกรรมการแพทย์” (วิศวกรรมชีวเวช และปัญญาประดิษฐ์) พร้อมด้วย ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และศ.นพ. บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ดำเนินรายการโดย ศ.นพ. สมเกียรติ วัฒนศิริชัยกุล นายกสมาคมวิศวกรรมชีวการแพทย์ไทย ในวันที่ 2 สิงหาคม 2563 เวลา 13.30 – 16.30 น. ณ ห้องประชุมเวิลด์บอลรูม ชั้น 23 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร มีผู้สนใจเข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก
โดยในส่วนของมหาวิทยาลัยขอนแก่น มีผลงานจากนักวิจัยและนักศึกษาได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมประกวดและนำเสนอผลงานนวัตกรรมสายอุดมศึกษา ประจำปี 2563 จำนวน 7 ผลงาน ได้แก่ 1.ผลงานทางคลินิกและการต้านเชื้อจุลชีพของการใช้สารสกัดขมิ้นชันรูปแบบเจลและแสงสีฟ้าในกระบวนการบำบัดโฟโตไดนามิกร่วมกับการรักษาโรคปริทันต์อักเสบแบบอนุรักษ์ 2.ผลจากสารซิลิคอนไดออกไซด์ต่อความคงตัวและเนื้อสัมผัสของครีมกันแดดในรูปแบบอิมัลชัน 3.โอลีเอไมด์ธรรมชาติ 4.สารไวแสงผสมเพื่อโฟโตไดนามิกบำบัดต้านเชื้อรามุ่งเป้า 5.ซีรั่มเพื่อเซลล์รากผม 6.แชมพูธรรมชาติ และ 7.อมายริน รักษาสิวและแผลอักเสบ ซึ่งในการนำเสนอผลงานครั้งนี้ รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมด้วย ศ.ดร.ธิดารัตน์ บุญมาศ รองอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและวิสาหกิจ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้เดินเยี่ยมชมผลงานนวัตกรรม จากมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่จัดแสดงภายในงานและพูดคุยซักถามให้กำลังใจ ซึ่งผลงานจะมีการประกาศผลในวันที่ 5 สิงหาคม 2563
สำหรับการจัดงาน“มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2563 (Thailand Research Expo 2020)” ครั้งที่ 15 เป็นเวทีระดับชาติที่นำเสนอ ผลงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรมที่มีคุณภาพ เป็นการสร้างสรรค์ สร้างแรงขับเคลื่อนให้เกิดกลไกสนับสนุนและพัฒนาการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ เป็นฐานความรู้ไปสู่กลุ่มผู้ใช้ประโยชน์ ระดับประเทศและนานาชาติ ขับเคลื่อนให้เกิดนวัตกรรมทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงแนวทางการป้องกัน บรรเทา และเยียวยาจากการระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)พร้อมทั้งการเตรียมพร้อมกับสถานการณ์ โรคอุบัติใหม่ด้วยงานวิจัยและนวัตกรรม โดยกำหนดจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2549 ด้วยความร่วมมืออันดีระหว่างหน่วยงานเครือข่ายในระบบวิจัยทั่วประเทศ ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) โดยปีนี้ จัดขึ้นเป็นปีที่ 15 มีการการนำเสนอผลงานวิชาการใน 6 กลุ่มเรื่องครอบคลุมการวิจัยทั้งด้านการแพทย์ และสาธารณสุข ด้านสังคม พลังงาน และสิ่งแวดล้อม ด้านการศึกษา ด้านศิลปวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ด้านการเกษตร และการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วิสาหกิจชุมชน.