วันที่ 4 กันยายน 2567 เวลา 09.00 น. ฝ่ายทรัพยากรบุคคล จะจัดพิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์หน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ให้กับกรรมการสภามหาวิทยาลัย โดยมี กล่าวรายงานต่อ รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ประธานในพิธี ซึ่งได้รับเกียรติจาก ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานสภามหาวิทยาลัย พร้อมด้วยคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัย และผู้บริหารมหาวิทยาลัย ร่วมเป็นเกียรติ ณ ห้องประชุมสิริคุณากร 3 ชั้น 2 อาคารสิริคุณากร สำนักงานอธิการบดี
พิธีการเริ่มโดย รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ทำความเคารพธงชาติ และถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นจึงได้เบิกตัวกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้เข้ารับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
ผศ.ดร.ภัทรวิทย์ พลพินิจ กล่าวรายงานว่า “พิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นสายสะพายให้กับกรรมการสภามหาวิทยาลัย จำนวน 2 ท่าน ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประกอบด้วย นายสุนทร อรุณานนท์ชัย ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นปฐมดิเรกคุณาภรณ์ (ป.ภ.) ปี พ.ศ. 2566 และ นายธนชาติ นุ่มนนท์ ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นประถมาภรณ์ข้างเผือก (ป.ช.) ปี พ.ศ. 2566 เพื่อเป็นบำเหน็จความชอบเป็นเครื่องหมายเชิดชูเกียรติวงศ์ตระกูลของผู้ได้รับพระราชทาน ที่ได้กระทำความดี ความชอบ เป็นประโยชน์แก่ทางราชการจนสำเร็จลุล่วง ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติ ศาสนา และประชาชน เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่ผู้ที่ได้รับพระราชทานทุกรายสืบไป”
รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล “ในพิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นสายสะพาย ให้กับกรรมการสภามหาวิทยาลัย ทั้ง 2 ท่าน โดยกำเนิดเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เป็นเครื่องหมายแสดงเกียรติยศและบำเหน็จ ความชอบ เป็นของพระมหากษัตริย์ทรงสร้างขึ้นสำหรับพระราชทานแก่ผู้กระทำความดี ความชอบ เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ศาสนาและประชาชน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย ทำขึ้นอย่างประณีต บรรจง อุดมด้วยลักษณ์อันดีงามของชาติ และมีความหมายลึกซึ้ง และผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ไม่ว่าตระกูลใด ชั้นตราใด ย่อมถือว่าเป็นผู้มีเกียรติยศ เป็นสิริมงคล เป็นเครื่องหมายเชิตชูเกียรติของวงศ์ตระกูล นับเป็นเกียรติยศอันสูงสุดแก่ผู้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่ง”
ข่าว : วัชรา น้อยชมภู
ภาพ : ณัฐวุฒิ จารุวงศ์