พิธีถวายพานพุ่มราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏ วิทยมหาราช รัชกาลที่ 4 “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย”
วันที่ 18 สิงหาคม 2567 เวลา 7.00 น. – 9.30 น. คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดพิธีถวายพานพุ่มราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏ วิทยมหาราช รัชกาลที่ 4 ณ บริเวณวงเวียนพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ หน้าอาคารวิทยาศาสตร์ 06 เพื่อเทิดพระเกียรติ พระปรีชาสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ในฐานะพระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย เนื่องในโอกาสวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ประจำปี 2567 โดยมีผู้แทนจากส่วนราชการ คณะหน่วยงาน ตลอดจนองค์กร สถาบันต่างๆ ในจังหวัดขอนแก่น ร่วมวางพานพุ่มถวายราชสักการะ เป็นจำนวนมาก
ภายในพิธี ผศ.ดร.อังคณา บุญยืด คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ นำตัวแทน ผู้บริหาร อาจารย์และบุคลากร ถวายพานพุ่มราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” รัชกาลที่ 4 และได้รับเกียรติจาก นายพันธ์เทพ เสาโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานในพิธี ถวายพวงมาลัยลักการะ แด่ พระบรมราชานุสาวรีย์ ต่อด้วยการจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย และถวายราชสดุดีเทิดพระเกียรติยศ แด่ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย ความว่า “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช รัชกาลที่ 4 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 4 ในพระบาทสมเด็จพระบรมราชพงษเชษฐ มเหศวรสุนทร พระพุทธเลิศหล้านภาลัย และสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินี เมื่อทรงพระชันษา 21 พรรษา ทรงผนวชเป็นพระภิกษุ พระองค์ทรงใช้เวลาในขณะที่ครองสมณเพศ เพื่อการศึกษาวิชาการต่าง ๆ เช่น ภาษาบาลี ภาษากรีก-ลาติน และภาษาอังกฤษ ทรงสนพระราชหฤทัยในวิชาภูมิศาสตร์ ตลอดจน วิทยาศาสตร์แขนงต่าง ๆ ที่สำคัญยิ่ง คือ วิชาดาราศาสตร์ คณิตศาสตร์ชั้นสูง วิชาโลหะวิทยาและอุตุนิยมวิทยา
เมื่อครั้งเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ในขณะนั้นลัทธิการล่าอาณานิคมกำลังแผ่ขยาย คุกคามประเทศที่ด้อยพัฒนา แต่ด้วยพระปรีชาญาณ อันสุขุม คัมภีรภาพ ที่ทรงดำเนินรัฐประศาสโนบาย และวิเทโศบาย พระองค์ทรงตระหนักพระราชหฤทัย เป็นอย่างดีว่า หนทางที่จะพาประเทศชาติให้รอดพ้นจากมหันตภัยดังกล่าว จักต้องแสดงพระบรมเดชานุภาพ ทางด้านวิชาการ ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อชาวอัสดงคตประเทศ ว่า ชาวไทยมิใช่อนารยชน หากแต่กอรปด้วยสติปัญญา สัมมาทิฐิในทางพระพุทธศาสนา ทั้งยังมีปัญญาทางด้านวิทยาศาสตร์เยี่ยงประเทศตะวันตก
พระองค์ทรงประยุกต์ความรู้ในทางคณิตศาสตร์ สามารถทำนายปรากฏการณ์ การเกิดสุริยุปราคาได้อย่างแม่นยำ เป็นเวลาล่วงหน้าถึง 2 ปี โดยสามารถกำหนดตำแหน่งที่จะสังเกตปรากฏการณ์ที่เด่นชัด ณ ตำบลหว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พระบรมเดชานุภาพที่แสดงในครั้งนั้น เป็นที่อัศจรรย์ยิ่งต่อพสกนิกรชาวสยาม และเป็นที่ยกย่องในพระปรีชาญาณทั่วไปในสากลประเทศ เป็นการเชิดชูศักดิ์ศรี แห่งความเป็นอริยะของชาวไทย ส่งผลให้ประเทศชาติคงความเป็นเอกราช ตราบจนทุกวันนี้” องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization) หรือ ยูเนสโก (UNESCO) ได้ประกาศยกย่องพระเกียรติคุณของพระองค์ให้ทรงเป็นบุคคลสำคัญของโลก และคณะรัฐมนตรีได้กำหนดให้วันที่ 18 สิงหาคมของทุกปี เป็น “วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ”