คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ฉลองครบรอบ 10 ปี แปลงกังหัน แหล่งสร้างกระบวนการ ฝึกฝน เรียนรู้นอกห้องเรียนแบบบูรณาการ ด้วยการเนรมิตหมู่บ้านชนเผ่าอินเดียนแดง กลางทุ่งดอกไม้ที่บานสะพรั่งสวยงาม พร้อมทำพิธีเปิดเผ่าให้นักท่องเที่ยวเข้า เช็คอิน ชม ช็อป แชร์ ชิม อิน และฟินกับบรรยากาศ อย่างเต็มอิ่ม ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ
เมื่อวันพุธที่ 7 ธันวาคม 2565 เวลา 17.00 น. คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดพิธีเปิดแปลงกังหัน ทุ่งดอกไม้นานาพรรณ ครั้งที่ 10 ขึ้น ณ แปลงกังหัน หมวดพืชไร่ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมี รศ.ดร.ดรุณี โชติษฐยางกูร คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ ได้ให้เกียรติกล่าวต้อนรับ นายอภิวัฒน์ สุนทะวงศ์ ประธานชุมนุมเกษตรเรียนรู้ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาพืชไร่ สโมสรนักศึกษาคณะเกษตรศาสตร์ กล่าวรายงานต่อ รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ประธานในพิธีเปิดงาน หลังจากนั้นชนเผ่าอินเดียนแดง ได้ส่งคบเพลิงให้ประธาน ฯ ทำพิธีจุดกองไฟเพื่อเป็นการเปิดหมู่บ้านชนเผ่าอินเดียนแดง ให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสวิถีเกษตรชาวพืชไร่อย่างเป็นทางการ ซึ่งผู้เข้าร่วมในพิธีประกอบด้วย ภริยาอธิการบดี รองอธิการบดี ผู้ช่วยอธิการบดี คณบดี คณาจารย์ สื่อมวลชน แขกผู้มีเกียรติ นักศึกษาคณะเกษตรศาสตร์ และนักท่องเที่ยว เข้าร่วมงานจำนวนมาก
รศ.ดร.ดรุณี โชติษฐยางกูร คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า “ปีนี้ครบรอบ 1 ทศวรรษของแปลงกังหัน จากเส้นทางการพัฒนาเด็ก ๆ นักศึกษา ที่มีจุดเริ่มต้นจากงานที่เล็กๆ จนสามารถขยับมาเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ มีคนเข้าชมหลายหมื่นคน สร้างการท่องเที่ยวในเชิงนิเวศให้กับจังหวัดขอนแก่น และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นการถ่ายทอดส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่น ที่สำคัญคือ งานมีสเกลใหญ่ขึ้นตัวนักศึกษาก็ต้องใช้เวลาหลังเลิกเรียน หรือวันหยุดเสาร์อาทิตย์ มาลงแปลง ซึ่ง หลายคนอาจจะคิดว่า เด็ก Generation ใหม่ไม่สู้งาน แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ ถ้าครูบาอาจารย์ได้ให้การสนับสนุน มันเป็นการเติมพลังซึ่งกันและกัน ซึ่งแปลงกังหันเหล่านี้เป็นแหล่งเรียนรู้ เรากำลังทำระบบนิเวศทางกายภาพให้ดีขึ้น และตอบโจทย์ต่อมหาวิทยาลัย ในการพัฒนาสภาพแวดล้อม ถือว่าเป็นความสำเร็จอย่างหนึ่งของครูบาอาจารย์ คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ กล่าว
นายอภิวัฒน์ สุนทะวงศ์ ประธานชุมนุมเกษตรเรียนรู้ ฯ กล่าวว่า “แปลงกังหัน ได้เริ่มขึ้นครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2556 จนปีนี้ครบรอบ 10 ปี ของแปลงกังหัน เรายังคงวัตถุประสงค์และแนวคิดที่สำคัญไว้ คือ เพื่อฝึกทักษะการผลิตพืช ในบริบทของการเป็นผู้ประกอบการทางด้านการเกษตรสมัยใหม่ สร้างความสามัคคีในการทำงานร่วมกัน ตลอดจน เป็นการแสดงความยินดีแก่พี่ ๆ บัณฑิตใหม่ และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับบุคลากรมหาวิทยาลัยขอนแก่น และบุคคลทั่วไปที่รักธรรมชาติ โดยได้มีการบูรณาการนักศึกษาทุกชั้นปี ของสาขาวิชาพืชไร่ และนักศึกษาชั้นปีที่หนึ่ง ปีที่ 2 และปีที่สาม รวมกว่า 800 คน ที่ร่วมจัดทำแปลง มีการปลูกไม้ดอกและพืชต่าง ๆ เพิ่มขึ้นมากมาย มีการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรจากนักศึกษา มีการจัดแสดงดนตรีทุกคืน ตั้งแต่ วันที่ 1 – 20 ธันวาคม 2565 บริเวณลานหมู่บ้านชนเผ่าอินเดียนแดง
รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า การจัดแปลงกังหัน ทุ่งดอกไม้นานาพรรณ เป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับมหาวิทยาลัยขอนแก่น และเป็นสถานที่บันทึกความประทับใจให้กับบัณฑิต และญาติบัณฑิตมีความภาคภูมิใจ และจากการกล่าวรายงานของนักศึกษาแล้ว มีความรู้สึกชื่นชมรูปแบบของการจัดงาน ความร่วมมือร่วมใจ และความคิดสร้างสรรค์ ที่ได้เนรมิตภูมิทัศน์ที่สวยงามให้กับมหาวิทยาลัยขอนแก่นติดต่อกันมาเป็นปีที่ 10 เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของคณะเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยขอนแก่นให้กับบุคคลทั่วไป ได้รู้จักมากยิ่งขึ้น และในครั้งนี้ รูปแบบในการจัดงานก็มีความหลากหลาย แตกต่าง และสวยงาม ไม่เหมือนครั้งที่ผ่าน ๆ มา
ทางด้านนายภูผา โงกสูงเนิน นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาพืชไร่ คณะเกษตรศาสตร์ ฝ่ายประชาสัมพันธ์โครงการแปลงกังหัน และผู้นำชม ได้กล่าวถึงกระบวนการทำงานว่า การทำแปลงกังหันปีนี้ เรามีแนวคิดที่อยากให้งานยิ่งใหญ่กว่าปีที่ผ่านมา จึงมีนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ถึงชั้นปีที่ 3 และสาขาอื่น มาร่วมกันเป็นทีมทำงานมากขึ้น มีการแบ่งตำแหน่งหน้าที่กันชัดเจน ปีนี้เรามีหมู่บ้านชนเผ่าชาวอินเดียนแดง เป็นจุด Land Mark ที่สำคัญทุกกิจกรรมเรามีพี่เลี้ยงมีอาจารย์คอยให้คำปรึกษาแนะนำ เป็นความภาคภูมิใจของทีมนักศึกษาที่ร่วมแรงร่วมใจกันทำงานนี้ ทำให้เราได้รู้จักกับเพื่อนมากขึ้น เรียนรู้การทำงานร่วมกัน แก้ปัญหาร่วมกัน และทำให้มีความสามัคคีในการทำงานมากยิ่งขึ้น
ส่วนนาย วธัญญู ผาน้อย นักท่องเที่ยวที่เข้าชมแปลงกังหัน กล่าวว่า มาชมแปลงกังหันเป็นครั้งที่ 2 มาพร้อมครอบครัว ชื่นชอบบรรยากาศภายในงานเป็นพิเศษ เพราะมีการจัดแปลงดอกไม้ที่หลากหลาย สวยงาม เป็นระเบียบ และมีจุดให้ถ่ายรูปค่อนข้างเยอะ ส่วนการจัดการภายในงานดี มีการแบ่งพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวชัดเจน ชอบมาก ถ้า มข.จัดงานดอกไม้ทุกปี ตนก็จะมาอีกในทุกๆปีเช่นกัน
และกลุ่มนักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะแพทย์ศาสตร์ มข. กล่าวถึงความประทับใจ ว่า ทราบข่าวจากเฟซบุ๊กของมหาวิทยาลัยขอนแก่น และมีเพื่อน ๆ แนะนำพวกเราก็เลยชวนกันมาชมบรรยากาศความสวยงามของดอกไม้แปลงกังหัน ชื่นชอบบรรยากาศภายในงาน มีการจัดคอนเสริต์เล็ก ๆ บวกกับอากาศที่กำลังเย็นสบายด้วย แนวคิดปีนี้คืออินเดียนแดง คิดว่าเขาจัดได้ตรง Concept ดี ประทับใจมาก ถ้ามีโอกาสพวกเราจะมาอีกครั้งแน่นอนค่ะ
สำหรับการสร้างแปลงกังหัน คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น สามารถพิสูจน์ให้เห็นว่า เป็นแหล่งสร้างกระบวนการ ฝึกฝน เรียนรู้นอกห้องเรียนแบบบูรณาการ มีการพัฒนามาโดยตลอด จนถึงครบรอบ 10 ปี มีการปรับภูมิทัศน์หลายจุดในพื้นที่ 10 ไร่ การปลูกไม้ดอกสวยงาม และพืชต่าง ๆ เพิ่มขึ้น กว่า 10 ชนิด รวมถึงพืชกินฝักและพืชไร่กว่า 10 ชนิด มีการเพิ่มโซนสะพานไม้ไผ่กลางบ่อน้ำที่ล้อมรอบด้วยทุ่งดาวกระจาย สลับกับคอสมอส มีจุดกิจกรรมต่าง ๆ มากมายมีการจำหน่ายผลผลิตด้านการเกษตรของนักศึกษา และยังมีการเนรมิตหมู่บ้านชนเผ่าอินเดียนแดง ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีเกษตรชาวพืชไร่กันอย่างเต็มอิ่ม โดยค่าเข้าชม เพียงท่านละ 20 บาท สำหรับท่านที่อายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป และเด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปี เข้าชมฟรี ! รายได้ทั้งหมดใช้ในกิจกรรมของนักศึกษาในการพัฒนาหมวดพืชไร่ และเป็นทุนในการจัดแปลงกังหันในปีต่อไป
ข่าว : เบญจมาภรณ์ มามุข/น.ส.กฤติมา ศรีสว่าง /น.ส.ธัญจิรา พลแสนจันทร์ นศ.ฝึกสหกิจศึกษา
ภาพ : อรรถพล ฮามพงษ์ / ณัฐวุฒิ จารุวงศ์ / ณัฐวุฒิ เพชรประไพ / น.ส.กฤติมา ศรีสว่าง นศ.ฝึกสหกิจศึกษา
KKU News : https://th.kku.ac.th/123520/