สำนักข่าว : news1live
URL : https://news1live.com/detail/9640000025358
วันที่เผยแพร่ : 17 มีนาคม 2564
ศูนย์ข่าวขอนแก่น – กลุ่มชาวขอนแก่นปกป้องสถาบันบุกพบอธิการบดี มข.หารือข้อห่วงใยกรณีปล่อยให้กลุ่มนักศึกษาจัดม็อบภายในรั้วมหาวิทยาลัยปราศรัยด้วยถ้อยคำหยาบคายล่วงละเมิดสถาบันกษัตริย์ ซ้ำยังมีอาจารย์บางกลุ่มคอยปลุกปั่นให้เป็นปฏิปักษ์ต่อเบื้องสูง โดยทาง มข.เพิกเฉยไม่จัดการใดๆ แม้แต่ป้องปราม ด้านรองอธิการฯ บอก มข.เป็นกลางทางการเมือง
วันนี้ (16 มี.ค.) ที่ห้องประชุมอาคารด้านหน้าตึกอธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) กลุ่มคนขอนแก่นปกป้องสถาบัน ได้ส่งตัวแทน ประกอบด้วย นายธรรมรัตน์ เสงี่ยมศรี นายวีระศักดิ์ สายทอง น.ส.วรพรรณ เบญจวรกุล นางราตรี วายทองคำ นายประกอบ แสงวิสิทธิ์ นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ นายภิญญู นารานันทิกร นายสุเนตร แก้วคำหาญ ฯลฯ เข้าพบ รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดี มข. ทั้งนี้ เพื่อยื่นหนังสือไม่เห็นด้วยที่ ม.ขอนแก่นให้มีการใช้พื้นที่ภายในมหาวิทยาลัยกระทำการจาบจ้วงล่วงเกินสถาบันพระมหากษัตริย์
สืบเนื่องจากในห้วงหลายเดือนที่ผ่านมามีกลุ่มบุคคลทั่วไป ส่วนใหญ่เป็นศิษย์เก่า มข.ในนามคนขอนแก่นพอกันที ร่วมกับนักศึกษาจัดให้มีการชุมนุมทางการเมืองภายใต้ชื่อกลุ่มม็อบปลดแอกบ้าง ม็อบกลุ่มราษฎรบ้างและอีกหลายชื่อตามแต่สถานการณ์จะพาไป กลุ่มเหล่านี้จัดชุมนุมภายในเขตมหาวิทยาลัยขอนแก่นอย่างต่อเนื่อง มีการปราศรัยจาบจ้วงล่วงเกินสถาบันพระมหากษัตริย์ พฤติกรรมและการพูดจาก้าวร้าวรุนแรง หยาบคาย
การชุมนุมที่หยาบคายก้าวร้าวก้าวล่วงสถาบันเบื้องสูงหลายครั้งหลายคราดังกล่าวไม่ควรเกิดขึ้นภายในสถาบันการศึกษาชั้นนำในภูมิภาคอย่างมหาวิทยาลัยขอนแก่น นักศึกษาเหล่านี้แทนที่จะบ่มเพาะวิชาความรู้ คุณธรรมจริยธรรมเพื่อเป็นกำลังหลักของชาติในอนาคต แต่กลับมีการกระทำและแสดงออกถึงความด้อยปัญญา ด้อยการศึกษา แยกแยะชั่วดีไม่ได้
ทำให้มหาวิทยาลัยขอนแก่นเสื่อมเสีย ถูกสังคมมองว่าไร้คุณภาพ บ่มเพาะขัดเกลานักศึกษาให้เป็นพลเมืองที่ดีไม่ได้ ไร้จิตสำนึกที่ดีต่อแผ่นดินเกิด ไร้ความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ 1 ใน 3 สถาบันหลักของชาติ
อย่างไรก็ตาม รศ.นพ.ชาญชัย ติดราชการ ได้มอบหมายให้ ผศ.นพ.ธารา ธรรมโรจน์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร เป็นผู้แทนรับหนังสือและพูดคุยกับตัวแทนกลุ่มคนขอนแก่นปกป้องสถาบันแทน
ทั้งนี้ นายธรรมรัตน์ได้เปิดประเด็นขึ้นก่อนว่า ที่ทางกลุ่มเข้าพบผู้บริหาร ม.ขอนแก่นในครั้งนี้เพราะไม่สบายใจที่ มข.ถูกใช้เป็นสถานที่เคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลที่ไม่จงรักภักดีต่อสถาบัน ต้องการล้มล้างด้วยการบิดเบือนข้อมูลที่เป็นเท็จ นอกจากกลุ่มม็อบที่มีนักศึกษาเข้าไปร่วมแล้วยังมีอาจารย์หลายท่านมีพฤติกรรมเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันเบื้องสูง ปลูกฝังแนวคิดผิดๆ เกี่ยวกับสถาบันให้แก่นักศึกษารุ่นต่อรุ่นมายาวนาน ด้วยข้อมูลที่บิดเบือน ไม่เป็นธรรมต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ท้าทายความรู้สึกของชาวขอนแก่นหรือชาวไทยที่เคารพเทิดทูนเป็นอย่างมาก
ผู้บริหารของ ม.ขอนแก่นเองก็เพิกเฉย ไม่ดำเนินการใดๆ ต่อกลุ่มคนเหล่านี้ อาจารย์หลายคนย่ามใจเชิญบุคคลที่มีแนวคิดล้มล้างสถาบันมาเป็นวิทยากรบรรยายให้เด็กนักศึกษาฟังเป็นระยะ อย่างกรณีล่าสุดเชิญดาราสนับสนุนม็อบ 3 นิ้วมาบรรยาย การโพสท่าชูสามนิ้วทั้งครูบาอาจารย์และนักศึกษาในห้องบรรยายเผยแพร่เห็นกันไปทั้งประเทศ เป็นภาพที่น่าอดสูมาก
“อธิการบดีผู้นำฝ่ายบริหารเป็นข้าราชการ เป็นข้าแผ่นดินต้องรักษากฎหมายอย่างเคร่งครัด หากพบข้าราชการในสังกัดกระทำการมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมก็ต้องดำเนินการทางวินัย ตักเตือน หากยังไม่หยุดทำผิดซ้ำซากก็ต้องพิจารณาการจ้างสอน ถ้าไม่ทำอะไรเลยประชาชนก็สามารถตีความได้ว่าฝ่ายบริหารให้การสนับสนุนหรือไม่” นายธรรมรัตน์กล่าว
นายสุเนตรแสดงความเห็นต่อว่า ก่อนนี้พวกเราภาคภูมิใจมากที่ ม.ขอนแก่นเป็นสถาบันการศึกษาอันดับต้นๆ ของประเทศ เป็นแหล่งรวมของผู้รู้ แหล่งบ่มเพาะบัณฑิต แต่ทุกวันนี้กับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้มองว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่ด้อยคุณภาพ แทนที่จะเป็นสถานศึกษาพัฒนาสร้างปัญญาชนกลับกลายเป็นแหล่งรวมของทุรชนจำนวนหนึ่ง อธิการบดีเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด ท่านทนอยู่นิ่งเฉยได้อย่างไร ทำไมไม่ดูแล ป้องปรามไม่ให้บุคลากรและนักศึกษาล่วงละเมิดเบื้องสูงอย่างที่เป็นอยู่ หากตักเตือนป้องปรามแล้วไม่เชื่อฟัง ก็จำเป็นต้องใช้ตัวบทกฎหมายจัดการให้เข็ดหลาบกันบ้าง
“ที่พวกเรามาวันนี้ต้องการทราบจุดยืนของฝ่ายบริหารที่นำโดยท่านอธิการบดีว่าคิดอย่างไรกับสถาบันเบื้องสูง เพราะไม่เห็นจัดการกับม็อบนักศึกษาที่ปราศรัยโจมตีให้ร้ายสถาบันด้วยชุดข้อมูลที่บิดเบือน ซ้ำยังปล่อยให้อาจารย์จำนวนหนึ่งปลูกฝังแนวคิดอันเป็นปฏิปักษ์กับสถาบันมาอย่างยาวนาน ผู้มีอำนาจสูงสุดเพิกเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น” นายสุเนตรกล่าว
ด้าน ผศ.นพ.ธารา ธรรมโรจน์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร ม.ขอนแก่น กล่าวชี้แจงว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นสถาบันการศึกษา ต้องวางบทบาทเป็นกลางทางการเมือง ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง กิจกรรมใดก็ตามที่ทำภายในรั้วสถาบันต้องไม่ล่วงละเมิดกฎหมาย หากมีการละเมิดก็ให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการ ในส่วนของอาจารย์ที่ทางท่านแจ้งว่ากระทำผิดวินัยข้าราชการ ก็ขอให้ท่านรวบรวมข้อมูลส่งให้ทางเรา ทางเรามีระเบียบ กฎเกณฑ์อยู่แล้ว จะดำเนินการตามขั้นตอน
มีรายงานว่าภายหลัง ผศ.นพ.ธารากล่าวเสร็จ นายสุเนตรได้กล่าวต่อว่า คำว่า เป็นกลางทางการเมือง เป็นคำที่น่ารังเกียจมาก จะใช้กับความดีกับความชั่วหรือสิ่งผิด-ถูกไม่ได้ และประเด็นที่ทางกลุ่มนำมาหารือกับฝ่ายบริหาร ม.ขอนแก่นครั้งนี้ก็ไม่เกี่ยวกับการเมืองแม้แต่น้อย เป็นประเด็นปัญหาการจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันกษัตริย์ของนักศึกษาและการเคลื่อนไหวของขบวนการล้มเจ้าที่ฝังตัวอยู่ในมหาวิทยาลัยโดยเฉพาะ ฉะนั้นจะใช้คำว่าเป็นกลางไม่ได้ ความเป็นกลางในที่นี้น่าจะตีความได้ว่า การเอาตัวรอด พยายามอยู่เหนือปัญหาใช่หรือไม่
ขณะที่นายธรรมรัตน์ก็ได้ขอแสดงความเห็นต่อว่า การที่รองอธิการบดีบอกว่าให้ทางพวกตน ซึ่งเป็นประชาชนธรรมดาไปหาข้อมูลรวบรวมส่งให้ฝ่ายบริหาร ม.ขอนแก่นนั้นเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เท่ากับว่าที่ผ่านมามหาวิทยาลัยไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นว่ามีการจัดม็อบทำผิดกฎหมายให้ร้ายสถาบันหรือมีอาจารย์บางกลุ่มเคลื่อนไหวบิดเบือนข้อมูลเกี่ยวกับสถาบันใช่หรือไม่ ไม่อยากเชื่อว่าจะได้ยินจากปากคนที่เป็นถึงผู้บริหารจะให้ประชาชนไปหาข้อมูลมาให้ น่าผิดหวังมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศช่วงนี้ค่อนข้างตึงเครียด ทาง น.ส.วรพรรณจึงได้ตัดบทขอยื่นหนังสือร้องเรียนพร้อมเอกสารแนบรายชื่อของประชาชนคนไทยที่เห็นด้วยกับการเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยขอนแก่นเลิกจ้างอาจารย์ที่มีพฤติกรรมล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งเป็นรายชื่อบางส่วนที่รวบรวมได้ในเวลาอันจำกัด แต่จะยังเปิดให้ลงชื่อต่อไปเรื่อยๆ
หลังมอบหนังสือเสร็จ นายวีระศักดิ์ สายทอง ตัวแทนกลุ่มก็ได้อ่านแถลงการณ์ ซึ่งความตอนหนึ่งระบุว่า ในนามกลุ่มคนขอนแก่นปกป้องสถาบันฯ ขอเป็นตัวแทนของคนไทยทั้งประเทศที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ขอให้ท่านอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้รับเรื่องนี้ไว้พิจารณาเป็นวาระเร่งด่วน นำไปแก้ไขจัดการมิให้มหาวิทยาลัยขอนแก่นถูกใช้เป็นสถานที่รวมตัวในการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์อีกต่อไป
รวมทั้งขอให้ท่านอธิการบดีดำเนินการพิจารณาคุณสมบัติของอาจารย์ที่มีพฤติกรรมที่มักเสี้ยมสอนเด็กและเยาวชนให้เป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบัน ขอให้เลิกจ้างอาจารย์กลุ่มดังกล่าว รวมทั้งเลิกจ้างอาจารย์ที่เกษียณแล้วบางคนฉวยโอกาสใช้มหาวิทยาลัยขอนแก่นร่วมกิจกรรมกับกลุ่มบุคคลที่สนับสนุน “กลุ่มราษฏร” มีภาพการชูสามนิ้วร่วมกัน ซึ่งแสดงถึงข้อเรียกร้องสามข้อที่จะล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์