สำนักข่าว: เดลินิวส์
URL: https://www.dailynews.co.th/article/799091
วันที่เผยแพร่: 4 ต.ค. 2563
ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สสส.และเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ ขับเคลื่อนสร้างนวัตกรรมโครงข่ายความคุ้มครองทางสังคมกับการแก้ปัญหาชุมชนท้องถิ่น
เดินทางมาถึงทศวรรษแล้วสำหรับโครงการชับเคลื่อนการทำงานร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ ภายใต้แผนสุขภาวะชุมชน ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน (สำนัก 3) ร่วมภาคีเครือข่าย
ล่าสุด ศูนย์วิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพชุมชน (ศวช.) คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดเวทีสุดยอดผู้นำชุมชนท้องถิ่น วาระ ทศวรรษร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ พื้นที่ภาคกลาง โดยมีนางประภาศรี บุญวิเศษ ประธานกรรมการกำกับทิศทางของแผนสุขภาวะชุมชน พื้นที่ภาคกลาง นายสมพร ใช้บางยาง ประธานเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ กรรมการบริหารแผน ผู้ทรงคุณวุฒิ ศูนย์สนับสนุนวิชาการเพื่อการจัดการเครือข่าย (ศวภ.) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 92 แห่ง เข้าร่วมรวมกว่า 600 คน ณ โรงแรมมิราเคิล
น.ส.ดวงพร เฮงบุณยพันธ์ ผู้ช่วยผู้จัดการอาวุโสกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส.และรักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน (สำนัก 3) กล่าวว่า ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สสส.และเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ ขับเคลื่อนสร้างนวัตกรรมโครงข่ายความคุ้มครองทางสังคมกับการแก้ปัญหาชุมชนท้องถิ่น คือ 1.บริการสาธารณะขั้นพื้นฐาน ด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา ฯลฯ ให้ทุกคนในชุมชนเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้ 2. สวัสดิการชุมชน เช่น การช่วยเหลือจัดตั้งกลุ่มด้านต่างๆ เช่น กลุ่มอาชีพ กลุ่มออมทรัพย์ ทั้งนี้ สสส.มีเป้าหมายที่จะร่วมกันสร้างผู้นำ ตำบลละ 200 คน และ 110 ทุนทางสังคม นั่นคือ 3,000 ตำบลของเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ ต้องสร้าง 600,000 ผู้นำ กับ 330,000 ทุนทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นแหล่งเรียนรู้ หรือนวัตกรรม
“ เชื่อมั่นว่า เราทำได้อย่างแน่นอน และจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงชุมชน สังคม ทำให้เกิดศักยภาพ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน”
ด้าน นายธวัชชัย ฟักอังกูร ประธานกรรมการบริหารแผน คณะที่ 3 สสส. กล่าวว่า ในวาระครบรอบ 1 ทศวรรษของการขับเคลื่อนการทำงานร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ ภายใต้แผนสุขภาวะชุมชน ได้จัดเวทีสุดยอดผู้นำชุมชนท้องถิ่น 4 ภาค เพื่อสรุปบทเรียนการดำเนินงานร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ในแต่ละภูมิภาค เสริมศักยภาพผู้นำชุมชนท้องถิ่นให้สามารถวิเคราะห์และสังเคราะห์รูปธรรมการปรับตัวหรือตั้งรับ (resilience) ของชุมชนท้องถิ่นทั้งในสถานการณ์ทั่วไปและสถานการณ์วิกฤติ
“ผู้สูงอายุ เศรษฐกิจชุมชน การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อาหารชุมชนสุขภาวะชุมชนในการรับมือโรคอุบัติใหม่ เป็นประเด็นที่ทั้ง 4 ภูมิภาคตกผลึกตรงกันที่จะกำหนดทิศทางในการพัฒนาขับเคลื่อนสร้างชุมชนท้องถิ่นเข้มแข็ง”นายธวัชชัยกล่าว
ผศ.ดร.พีรพงษ์ บุญสวัสดิ์กุลชัย รองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพชุมชน (ศวช.) คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวถึงการขับเคลื่อนเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ พื้นที่ภาคกลางว่า ขับเคลื่อน 6 ประเด็นสำคัญ ง คือ 1.สร้างคุณภาพสังคมเพื่อผู้สูงอายุ ทั้งการเตรียมความพร้อมสถานการณ์ผู้สูงอายุ และการดูแลผู้สูงอายุในทุกมิติ 2.จัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เช่น ขยะ น้ำ เป็นต้น 3.ลดปัจจัยเสี่ยง ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การบริโภคยาสูบ และความปลอดภัยบนท้องถนน 4.เศรษฐกิจชุมชน สร้างงาน สร้างอาชีพ ลดหนี้ เพิ่มเงินออม 5. การจัดการสุขภาพชุมชน และสวัสดิการชุมชนหลายมิติ เช่น การรับมือกับโรคติดต่อแบบ New Normal 6.สร้างอาหารปลอดภัย เน้นพึ่งพาตนเองตนเองด้านอาหารในภาวะปกติและภาวะวิกฤติ
ทั้งหมดคือสรุปของชุมชนน่าอยู่ในภาคกลาง และภาคอื่นๆจะตามมาโดยผ่านกลไกการทำงานร่วมกับเครือข่ายชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ สานพลังขับเคลื่อนการทำงานร่วมกับ 4 องค์กรหลักในพื้นที่ ประกอบด้วย ท้องถิ่น ได้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ท้องที่ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นต้น