มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยสำนักบริการวิชาการ ร่วมกับสาขาวิชาวิศวกรรมเกษตร คณะวิศวกรรมศาสตร์ จัดโครงการ “สร้างชุมชนต้นแบบเพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์จากใบอ้อยและเถ้าชานอ้อย” ที่ตำบลกุดกว้าง อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น เพื่อแก้ปัญหามลพิษทางอากาศและสร้างรายได้เสริมให้แก่เกษตรกร โดยการแปรรูปเศษวัสดุเหลือใช้จากการเกษตรที่มักถูกเผาทิ้งในไร่ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่า
จากปัญหาสู่นวัตกรรม: แนวคิดพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน
รศ.น.สพ.ดร.ชูชาติ กมลเลิศ ผู้อำนวยการสำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า โครงการนี้ตอบสนองยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยขอนแก่นในการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากฝ่ายนวัตกรรมและสังคมยั่งยืนของมหาวิทยาลัย และได้รับความร่วมมือจากเครือมิตรผล (โรงงานน้ำตาลมิตรภูเวียง) ในการเชิญชวนเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยเข้าร่วมโครงการ “นอกเหนือจากการสร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกร โครงการนี้ยังเป็นการช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการเผาอ้อยก่อนการตัดขาย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของ PM 2.5 เกษตรกรจะได้เห็นความสำคัญของการไม่เผาและนำเอาใบอ้อยมาเข้าสู่กระบวนการผลิตเป็นถ่านอัดแท่งที่มีคุณภาพ สามารถนำไปใช้งานได้นานและไม่ก่อมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม” รศ.น.สพ.ดร.ชูชาติ กล่าวเพิ่มเติม
“เทคโนโลยีที่พัฒนาโดยทีมวิจัยมืออาชีพ”
รศ.ดร.กิตติพงษ์ ลาลุน อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมเกษตร คณะวิศวกรรมศาสตร์ ผู้รับผิดชอบในการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตถ่านอัดแท่งจากเถ้าชานอ้อยและใบอ้อย เปิดเผยว่า ทีมวิจัยมีความเชี่ยวชาญด้านถ่านอัดแท่งมากว่า 18 ปี โดยเคยพัฒนาถ่านอัดแท่งจากเหง้ามันสำปะหลังและเศษวัสดุจากการตัดแต่งกิ่งในสวนมาก่อน “ปัจจุบันมีกระแสการลดการเผาใบอ้อย ทีมของเราจึงมองเห็นศักยภาพของใบอ้อยที่มีค่าความร้อนเหมาะสมสำหรับแปรสภาพเป็นถ่านอัดแท่งใช้ในครัวเรือน หรือใช้ให้ความร้อนในเชิงพาณิชย์ รวมถึงพัฒนาเป็นถ่านชีวภาพ (Biochar) สำหรับการปรับปรุงดิน” รศ.ดร.กิตติพงษ์ อธิบาย
กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
รศ.ดร.ศุภสิทธิ์ คนใหญ่ รองผู้อำนวยการสำนักบริการวิชาการฝ่ายวิชาการ และหัวหน้าโครงการ เล่าถึงวัตถุประสงค์ของโครงการว่า “เรามุ่งนำวัสดุชีวมวลและใบอ้อยที่เหลือใช้จากการเกษตรมาสร้างมูลค่า โดยใช้นวัตกรรมจากคณะวิศวกรรมศาสตร์มาพัฒนาและต่อยอดคิดสูตรการนำใบอ้อย/เถ้าชานอ้อยมาเป็นวัถตุดิบหลักในการทำเป็นถ่านอัดแท่ง ซึ่งเราพยายามลดการเผาชีวมวลในไร่เพื่อลดฝุ่น PM 2.5 และสร้างหลักสูตรให้กับชุมชนต้นแบบ ซึ่งจะช่วยถ่ายทอดองค์ความรู้และพัฒนาผลิตภัณฑ์จากชีวมวล”
กิจกรรมในโครงการเริ่มจากการนำเครื่องจักรและนวัตกรรมมาอบรมให้ความรู้กับกลุ่มเกษตรกรเป้าหมาย โดยมีขั้นตอนดังนี้:
- นำวัตถุดิบชีวมวล (ใบอ้อย) มาเผาในเตาเผาที่ออกแบบพิเศษเพื่อลดควัน
- เถ้าถ่านก้อนใหญ่จะถูกนำไปบดให้มีขนาดเล็กลง
- ผสมผงถ่านกับแป้งในสัดส่วนไม่เกิน 10% และเติมน้ำ
- นำส่วนผสมเข้าสู่เครื่องอัดเพื่อขึ้นรูปเป็นก้อนถ่าน
- ได้ผลิตภัณฑ์ถ่านอัดแท่งที่ให้ความร้อนสูง ไร้ควัน และใช้ได้นาน
การสร้างคุณค่าร่วมกับชุมชน
โครงการได้รับงบประมาณสนับสนุนจากศูนย์บริหารเทคโนโลยีและนวัตกรรม ฝ่ายวิสาหกิจและสังคมยั่งยืน สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น ประจำปี 2567 ซึ่งเป็นการสนับสนุนที่สำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาชุมชนและเพิ่มศักยภาพในการพึ่งพาตนเองของเกษตรกรท้องถิ่น
ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนสู่อนาคต
โครงการมุ่งเน้นการสร้างชุมชนยั่งยืนผ่านกระบวนการมีส่วนร่วม เกษตรกรได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับเทคนิคและกระบวนการผลิตถ่านแบบใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทั้งด้านการผลิตและการตลาด มีการจัดเวิร์คชอปและอบรมเพื่อเสริมสร้างความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการในระยะยาว
นอกจากนี้ ชุมชนที่เข้าร่วมโครงการจะกลายเป็นต้นแบบให้กับพื้นที่อื่นๆ ที่มีปัญหาคล้ายคลึงกัน ได้เห็นแนวทางในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 พร้อมกับการสร้างรายได้อย่างยั่งยืน
โครงการสร้างชุมชนต้นแบบเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์จากใบอ้อยและเถ้าชานอ้อย ไม่เพียงเป็นแนวคิดนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ปัญหามลพิษในภูมิภาค แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจสำหรับความร่วมมือระดับชุมชนในการพัฒนานวัตกรรมที่เหมาะสมกับบริบทท้องถิ่น เปลี่ยนจากชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากวิธีการเกษตรแบบดั้งเดิม สู่การเป็นชุมชนนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนอย่างแท้จริง