กองการต่างประเทศ มข. ต้อนรับคณะศึกษาดูงานจากมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต มุ่งยกระดับความร่วมมือสู่สากล

เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 กองการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำโดย รศ.ทพญ.ดร.นวรัตน์ วราอัศวปติ รองอธิการบดีฝ่ายการต่างประเทศ  พร้อมด้วย ผศ.ดร.อัจฉราวรรณ โตภาคงาม ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายการต่างประเทศ  มหาวิทยาลัยขอนแก่น ให้การต้อนรับคณะผู้แทนจากสถาบันภาษาและกิจการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต  นำโดย ผศ.ดร.เพียงจิต สันติจรัสวโรคม รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศและบริหารสินทรัพย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ในการเข้าศึกษาดูงาน ณ ห้องประชุมสภามหาวิทยาลัยขอนแก่น อาคารสิริคุณากร ชั้น 2


โดยมี ผศ.ดร.อัจฉราวรรณ โตภาคงาม ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวต้อนรับคณะศึกษาดูงาน ตามด้วยการกล่าวถึงวัตถุประสงค์การศึกษาดูงานโดย ผศ.ดร.เพียงจิต สันติจรัสวโรคม รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศและบริหารสินทรัพย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต 

สำหรับฝ่ายมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้นำเสนอข้อมูลด้านต่างๆ ของมหาวิทยาลัย ดังนี้ ผศ.ดร.ขวัญเกศ กนิษฐานนท์ แนะนำและเสนอภาพรวมการดำเนินงานของกองการต่างประเทศ, คุณจรณ์ ส่งเสริม นักวิเทศสัมพันธ์ชำนาญการ แบ่งปันประสบการณ์และแนวทางการดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จของมหาวิทยาลัยขอนแก่น

 

ปิดท้ายด้วย รศ.ทพญ.ดร.นวรัตน์ วราอัศวปติ รองอธิการบดีฝ่ายการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยขอนแก่น แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการบริหารยุทธศาสตร์ฝ่ายการต่างประเทศ และแลกเปลี่ยนหารือร่วมกับคณะศึกษาดูงาน  เรื่องกลยุทธ์การบริหารมหาวิทยาลัยสู่ความเป็นนานาชาติ กิจกรรมต่างๆ แนวทางการบริหารจัดการทุนแลกเปลี่ยนอาจารย์เพื่อการสอนและวิจัย (Inbound & Outbound Visiting Scholar) 

นอกจากนี้ คณะศึกษาดูงานยังได้เยี่ยมชม KKU Academy เพื่อเรียนรู้แนวทางการพัฒนาสู่ความเป็นนานาชาติ ซึ่งการศึกษาดูงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์สำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างสองสถาบัน โดยมุ่งเน้นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศในการดำเนินงาน การสร้างเครือข่าย และการแลกเปลี่ยนด้านการวิจัย อีกทั้งยังมุ่งพัฒนาศักยภาพบุคลากรและส่งเสริมนวัตกรรมด้านการต่างประเทศที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะนำไปสู่การพัฒนาและยกระดับมาตรฐานงานด้านการต่างประเทศของทั้งสองสถาบัน พร้อมช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาสู่ความเป็นนานาชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

 

 

 

 

ข่าว/ภาพ: กองการต่างประเทศ