คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ขอแสดงความยินดีและร่วมภาคภูมิใจ ของนักศึกษาสาขาการสอนภาษาไทย ทีม “ทศคีย์”ที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ระดับประเทศ ในการประกวดสวดโอ้เอ้วิหารราย ประจำปีงบประมาณ 2567 จัดโดย กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ได้เป็นตัวแทนสวดโอ้เอ้วิหารรายในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลเนื่องในวันอาสาฬหบูชา และเทศกาลเข้าพรรษา ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา อีกทั้งยังได้เข้ารับพระราชทานโล่รางวัลจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันที่ 3 มีนาคม 2568 ณ ศาลาพระราชศรัทธาวัดปทุมวนาราม เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร และวันที่ 7 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ได้เข้าพบ รศ.ดร.อิศรา ก้านจักร คณบดีคณะศึกษาศาสตร์ และ รศ.ดร.จารุณี ซามาตย์ รองคณบดีฝ่ายการศึกษาและบริการวิชาการ เพื่อรายงานผลการแข่งขัน
ทีม “ทศคีย์” ประกอบด้วยนักศึกษาสาขาการสอนภาษาไทยชั้นปีที่ 2 จำนวน 12 คน โดยมี อาจารย์เบญจพร เหล่าวงษี เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาและผู้ควบคุม
ประกอบด้วย
• นายต้นหนาว ฐานสมบัติ
• นายธนาดุล บุญหาญ
• นายภาณุภัสส์ ทองปพนสินธุ์
• นายวัชระพงษ์ จำปาจวบ
• นายธนัญชัย บุ้งทอง
• นายสศิโรจน์ นาคช้างแดง
• นางสาวนันทิดา นันสถิตย์
• นางสาววชิรินทรา มะโนรัตน์
• นางสาวศศิกาญจน์ แพ่งสภา
•นางสาวอุมาภรณ์ จงเทพ
• นายภูมินทร์ ภูมิเรศสุนทร
• นางสาวธัญวรัตน์ กิติศรีวรพันธุ์
อาจารย์เบญจพร เหล่าวงษี กล่าวว่า “ในฐานะอาจารย์สอนภาษาไทย รู้สึกปลื้มปีติและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นนักศึกษาของเราเข้ารับพระราชทานรางวัลอันทรงเกียรตินี้ การสวดโอ้เอ้วิหารรายไม่ใช่เพียงการแสดงความสามารถทางภาษา แต่เป็นการสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าของชาติไทย” อาจารย์เบญจพรเล่าถึงกระบวนการฝึกซ้อมที่ต้องใช้ทั้งความทุ่มเทและพยายาม “การสวดโอ้เอ้วิหารรายต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในความงามของภาษาทั้งในด้านฉันทลักษณ์ อักขรวิธี การเอื้อนเสียง จังหวะ และท่วงทำนอง นักศึกษาต้องเรียนรู้การหายใจให้ถูกจังหวะ การเปล่งเสียงให้ไพเราะ กังวาน ที่สำคัญคือการเข้าใจความหมายของบทประพันธ์อย่างถ่องแท้ เพื่อถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกผ่านเสียงสวดได้อย่างสมบูรณ์” “สิ่งที่ภูมิใจมากกว่ารางวัลคือการที่นักศึกษาเกิดความซาบซึ้งและตระหนักในคุณค่าของภาษาและวรรณคดีไทย พวกเขาได้เรียนรู้ว่าการสอนภาษาไทยไม่ใช่เพียงการถ่ายทอดตัวอักษรและหลักไวยากรณ์ แต่คือการปลูกฝังความรักและความภาคภูมิใจในรากเหง้าทางวัฒนธรรมของตนเอง” อาจารย์เบญจพรยังได้สะท้อนมุมมองในฐานะผู้สอนวิชาภาษาไทย “การสอนภาษาไทยในยุคปัจจุบันมีความท้าทายอย่างมาก เมื่อเทคโนโลยีและวัฒนธรรมต่างชาติเข้ามามีอิทธิพล ทำให้เยาวชนห่างไกลจากรากเหง้าแห่งวัฒนธรรมทางภาษาของตนเอง ความสำเร็จของทีมนักศึกษาครั้งนี้จึงเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าเยาวชนรุ่นใหม่ก็สามารถเข้าถึงและหวงแหนมรดกทางภาษาของเราได้ อนึ่งกระบวนการฝึกซ้อมไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับการเป็นครูภาษาไทยในอนาคต นักศึกษาได้เรียนรู้ทั้งศาสตร์และศิลป์ของการถ่ายทอดภาษา การทำงานเป็นทีม และความอดทน ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญของการเป็นครูที่ดี เชื่อว่านักศึกษากลุ่มนี้จะเติบโตเป็นครูภาษาไทยที่มีคุณภาพ และจะช่วยสืบสานมรดกทางภาษาของชาติให้คงอยู่ต่อไป”
“โอ้เอ้วิหารราย” หรือ “โอ้เอ้พิหารราย” ถือเป็นส่วนสำคัญในพระราชพิธีเทศกาลเข้าพรรษา กลางพรรษา และออกพรรษา ที่จัดขึ้นที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามในพระบรมมหาราชวัง ประเพณีนี้มีรากฐานยาวนานเริ่มตั้งแต่สมัยพระเจ้าทรงธรรม และได้รับการปรับปรุงในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเพื่อให้ผู้คนเข้าใจง่ายขึ้น โดยในอดีตมีการสวดมหาชาติคำหลวงที่ศาลารายรอบพระอุโบสถ ซึ่งเป็นการสวดที่ใกล้เคียงกับศิลปะนาฏศิลป์ ต่อมา พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงส่งเสริมให้นักเรียนเข้ามามีส่วนร่วมในพิธีนี้ เมื่อโรงเรียนต้นแบบได้ย้ายที่ตั้ง กรมพระยาดำรงราชานุภาพจึงให้โรงเรียนต่าง ๆ ส่งนักเรียนเข้าร่วมแทน จนกระทั่งสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ ที่ได้ทรงฟื้นฟูโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบในพระบรมมหาราชวัง เพื่อต่อยอดพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ปัจจุบันมีนักเรียน นักศึกษา หลายสถาบันทั่วประเทศให้ความสนใจและร่วมกันสืบสานอย่างต่อเนื่อง
ประเพณี “โอ้เอ้วิหารราย” ไม่เพียงส่งเสริมการฝึกฝนการอ่านและการสวด แต่ยังเป็นการสืบทอดวัฒนธรรมและประเพณีไทยที่มีคุณค่าให้อยู่กับชาวไทย นอกจากนี้ นักเรียนที่มีความสามารถในการสวดดีจะได้รับรางวัลเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และให้กำลังใจแก่เยาวชนในการสืบสานประเพณีที่สำคัญนี้ในอนาคต