เปิดใจ “ทพ.กิตติพิชญ์” มข. จากบัณฑิตทันตแพทย์ดีเด่นยอดเยี่ยม สู่ทุนอานันทมหิดล กับความหวังดูแลช่องปากผู้สูงอายุอีสานด้วยวิทยาการระดับสากล

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลเฝ้าฯ โดยมี ทพ.กิตติพิชญ์ ศรีสระน้อย ทันตแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ผู้ได้รับพระราชทานทุนมูลนิธิอานันทมหิดล แผนกทันตแพทยศาสตร์ ประจำปี 2566 เฝ้าละอองธุลีพระบาท กราบถวายบังคมลา เพื่อไปศึกษาต่อระดับปริญญาเอก สาขาทันตแพทยศาสตร์ (ทันตกรรมผู้สูงอายุ) คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยซูริค สมาพันธรัฐสวิส (Center of Dental Medicine, University of Zurich)

ก่อนเดินทางไปศึกษาต่ออย่างเป็นทางการ ทพ.กิตติพิชญ์ ศรีสระน้อย ทันตแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้เปิดใจถึงเส้นทางการศึกษาและสั่งสมประสบการณ์ก่อนมาถึงวันแห่งความสำเร็จว่า เด็กชายกิตติพิชญ์มีความฝันอยากเป็นหมอฟัน และอยากเรียนใกล้บ้าน คำตอบสุดท้ายของการสอบเข้ามหาวิทยาลัยจึงกลายเป็นมอดินแดง และเขาก็ทำตามความตั้งใจสำเร็จเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของคณะทันตแพทยศาสตร์

แม้จะไม่ใช่เรื่องง่ายที่ต้องเรียนรู้ภายในห้องเรียน ทั้งยังต้องฝึกทักษะในห้องปฏิบัติการ รวมถึงการลงคลินิกรักษาคนไข้ แต่ ทพ.กิตติพิชญ์ ก็ไม่ได้ทิ้งกิจกรรม กลับเดินหน้าเป็นทั้งนายกสโมสรนักศึกษา ควบตำแหน่งพิธีกรประจำคณะ บรรเลงดนตรีในวงดนตรีไทยของคณะ ไปจนถึงการเป็นหัวหน้าโครงการต่าง ๆ และเขาก็ทำทุกอย่างด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ

              “ผมก็เครียดนะ เพราะการเรียนเราก็ต้องตั้งใจ การรักษาคนไข้ก็สำคัญมาก ๆ เราก็คาดหวังกับตัวเองสูง แต่ก็เลือกที่จะแบ่งเวลาให้ชัดเจน เรียนก็เรียนสุด เที่ยวก็เที่ยวสุด เล่นก็เล่นสุด ช่วงสอบก็ต้องอ่านหนังสือสุด ส่วนใหญ่ผมจะตั้งใจเรียนในห้อง เพราะชอบฟังให้เข้าใจ แล้วมาทบทวนก็จะง่ายขึ้น รูปแบบการเรียนมันอยู่ที่สไตล์คน แต่เราเป็นประเภทเต็มที่กับทุกอย่าง

หนึ่งในโครงการที่ ทพ.กิตติพิชญ์ ประทับใจมากที่สุด คือ การได้เป็นประธานโครงการทันตกรรมเคลื่อนที่ไปรักษาช่องปากให้คนไข้ที่ในอำเภอบ้านฝาง ทำให้ได้เห็นความเดือดร้อนของชาวบ้านและได้ใช้ความสามารถช่วยเหลือคนไข้อย่างแท้จริง และอีกหนึ่งโครงการใหญ่ระดับประเทศที่ได้ร่วมงานในฐานะรองประธาน คือโครงการช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 ภายใต้การสนับสนุนของทันตแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงเป็นส่วนสำคัญให้เขาได้รับรางวัลบัณฑิตทันตแพทย์ดีเด่นยอดเยี่ยม ประจำปี 2565 เพียง 1 เดียวในประเทศไทย จากคุณสมบัติที่สมบูรณ์ทุกด้านทั้งผลการเรียน กิจกรรม และการทำประโยชน์เพื่อสังคม

อย่างไรก็ตาม ความฝันของคุณหมอหนุ่มยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ หลังเรียนจบแล้ว ทพ.กิตติพิชญ์ ก็เลือกที่จะบริการประชาชนที่โรงพยาบาลทันตกรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่นต่อทันที และพร้อมที่จะออกเดินตามความฝันอีกครั้งกับการไปศึกษาต่อในต่างประเทศ เขาจึงเริ่มต้นด้วยการเรียนภาษาอังกฤษอย่างจริงจัง เตรียมผลการเรียนการันตีด้วยเกรด 3.82 เกียรตินิยมอันดับ 1  รวมถึงกิจกรรม และรางวัลต่าง ๆ ทั้งในและนอกมหาวิทยาลัย และหัวข้องานวิจัยสำหรับปริญญาเอกเพื่อเข้ารับการพิจารณาทุนมูลนิธิอานันทมหิดล แผนกทันตแพทยศาสตร์

ผมยื่นขอทุนเพื่อไปเรียนต่อสาขาทันตกรรมผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นคลินิกที่ค่อนข้างใหม่ในประเทศไทย มีคนเรียนกลับมาไม่มาก คาดว่าไม่ถึง 10 คน  เพราะเป็นสาขาที่เพิ่งตั้ง ในคณะทันตะฯ มข. ก็ยังไม่มีใครจบสาขานี้โดยตรง หรือแม้แต่ภาคอีสานก็ขาดแคลนสุด ๆ ทั้งที่เป็นภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุดของประเทศที่มีจำนวนผู้สูงอายุมากที่สุด แต่ไม่มีคนที่จบโดยตรงมาดูแลและให้ความรู้ ทั้งที่จำเป็นมาก ๆ

หลังทราบข่าวดีว่าได้รับพระราชทานทุนฯ ทพ.กิตติพิชญ์ บอกด้วยรอยยิ้มกว้างว่า ดีใจมากเพราะเหมือนกับการทำฝันเป็นจริงได้สำเร็จ และมั่นใจว่า University Of Zurich ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์จะตอบโจทย์ประสบการณ์ชีวิตและต่อยอดองค์ศาสตร์และองค์ความรู้ใหม่ ๆ ในการรักษาและดูแลช่องปากคนไข้สูงอายุรวมถึงคนไข้ที่มีความต้องการพิเศษ เช่น กลุ่มคนไข้ที่มีภาวะดาวน์ซินโดรม ความบกพร่องทางสติปัญญา ที่ในปัจจุบันมีอายุขัยเพิ่มขึ้น และหวังว่าในอนาคตจะสามารถกลับมาพัฒนาศูนย์ดูแลสุขภาพช่องปากผู้สูงอายุและผู้มีความต้องการพิเศษ คณะทันตะฯ มข. ให้มีวิทยาการไปไกลยิ่งกว่าเดิมได้ในระดับสากล ตลอดจนช่วยผลิตทันตแพทย์เฉพาะทาง ในสาขาทันตกรรมผู้สูงอายุให้แก่ประเทศไทยได้ต่อไป

 

บทความ : ผานิต ฆาตนาค

Scroll to Top