Khon Kaen University joins hands with the Public Sector Development Commission to push for fully digital documents, reduce work steps, support clean energy, and connect government organizations to the international level.

“มข. จับมือ ก.พ.ร.  ดันเอกสารดิจิทัลเต็มรูปแบบ ลดขั้นตอนการทำงาน หนุนพลังงานสะอาด เชื่อมองค์กรรัฐสู่สากล”

วันนี้ ( 6 กุมภาพันธ์ 2563 ) มหาวิทยาลัยขอนแก่นต้อนรับคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร. ) เพื่อปรึกษาหารือและแลกเปลี่ยนนโยบายการทำงานเรื่อง ความพร้อมในการพัฒนาระบบเอกสารราชการเป็นเอกสารดิจิทัล โดยมี ผศ.ดร.เด่นพงษ์ สุดภักดี รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนามหาวิทยาลัยดิจิทัล มหาวิทยาลัยขอนแก่น นางอารีย์พันธ์ เจริญสุข รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร. ) คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยขอนแก่นและคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร. )     เข้าร่วมประชุมกว่า 30 คน ณ ห้องประชุมสิริคุณนากร อาคารสิริคุณากร สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ตามที่รัฐบาลมีมติเห็นชอบ ในที่ประชุมเรื่องมาตรการอำนวยความสะดวกและลดภาระให้แก่ประชาชนในการไม่เรียกเก็บสำเนาเอกสารที่ทางราชการออกให้ การจ่ายเงินและสวัสดิการ รวมทั้งการเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบดิจิทัล ที่ไม่ต้องใช้เอกสารในรูปแบบของกระดาษทำให้การติดต่อสื่อสารหรือการทำหนังสือทางราชการมีความสะดวกรวดเร็วและข้อมูลไม่เกิดการสูญหายได้ อีกทั้งมหาวิทยาลัยขอนแก่นยังเป็นมหาวิทยาลัยนำร่องในการดำเนินการพัฒนาการออกเอกสาร หลักฐานทางราชการผ่านระบบดิจิทัล และเอกสารที่ได้รับการยืนยันเป็นเอกสารดิจิทัลได้แก่ วุฒิการศึกษา และใบเสร็จรับเงิน

ผศ.ดร.เด่นพงษ์ สุดภักดี รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนามหาวิทยาลัยดิจิทัล มหาวิทยาลัยขอนแก่น

            ผศ.ดร.เด่นพงษ์ สุดภักดี รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนามหาวิทยาลัยดิจิทัล มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า การดำเนินการพัฒนาเอกสาร หลักฐานต่าง ๆ ให้มาอยู่ในรูปแบบของเอกสารดิจิทัล ทำให้มหาวิทยาลัยสามารถที่จะลดปริมาณของการใช้กระดาษและมีสะดวก ความรวดเร็วในการทำงานเป็นอย่างมาก                 ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายมหาวิทยาลัยในด้าน Ecological หรือระบบนิเวศของมหาวิทยาลัยในการพัฒนาระบบการทำงานและการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ที่มีความครอบคลุมทุกกระบวนการทำงานในแต่ละขั้นตอน

“สำหรับการหารือในครั้งนี้ทำให้เรามั่นได้ว่าสิ่งที่เราได้จากการพัฒนาระบบเอกสารดิจิทัลนั้น ดำเนินมาถูกทาง ซึ่งอย่างน้อยอยู่ในมาตรฐานของประเทศที่เราได้ดำเนินการตามมติของคณะรัฐมนตรีในการเป็นหน่วยงานนำร่อง ที่สร้างความเชื่อมั่นในการทำระบบดิจิทัลนี้ขึ้นมา นอกจากนี้เราก็ต้องใช้ระบบของคนอื่นควบคู่ไปด้วย เพื่อที่จะให้เห็นความแตกต่างและนำมาปรับปรุงระบบของเราได้ โดยการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างเจ้าของเอกสารที่เป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ใช่แค่ไฟล์ที่สแกนเป็นรูปภาพเท่านั้น แต่ในไฟล์จะต้องมีข้อมูลและทำให้มั่นใจว่าเป็นเอกสารที่เราออกเอง และในระหว่างที่นำเอกสารไปใช้นั้นจะต้องไม่ถูกแก้ไขโดยบุคคลอื่น เมื่อเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นระบบจะแจ้งเราทันที เรียกว่า Digital Signature ที่จะเกิดการปลอมแปลงเอกสารขึ้นไม่ได้ ซึ่งมีการใช้วิธีการแบบนี้ร่วมกันทั่วโลก ตอนนี้มหาวิทยาลัยขอนแก่นของเรามีมาตรฐาน PDF ที่มีระบบลงนามเอกสารผ่านไฟล์ PDF อยู่แล้วในปัจจุบัน และในเดือนมีนาคมนี้จะมี Adobe Creative Cloud ให้บุคลากรทั้งหมดได้ใช้กัน  ถือเป็นเจตนารมณ์ของมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่นำร่องในเรื่องของเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ และภายในปีนี้เราต้องมีระบบที่นำผลของการดำเนินการขยายต่อไป ที่เราจะมีวิธีการ เครื่องมือ และบุคลากรที่มีความรู้ความเข้าใจระบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นอย่างดี ”   ผศ.ดร.เด่นพงษ์ say

ทางด้านสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร. ) ได้ให้แนวทางและข้อเสนอแนะในการดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารดิจิทัลที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีศักยภาพในการดำเนินการได้เป็นอย่างดีและมีขั้นตอนในการทำงานที่มีมาตรฐาน แต่ยังมีอุปสรรคในเรื่องของการรับข้อมูลจากภายนอกที่ยังไม่มีการตรวจสอบที่แน่ชัด ทำให้มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้รับแนวทางที่จะนำมาพัฒนาระบบให้ครอบคลุมต่อไป

นางอารีย์พันธ์ เจริญสุข รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร. )

            นางอารีย์พันธ์ เจริญสุข รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร. ) เผยถึงศักยภาพของมหาวิทยาลัยขอนแก่นในการพัฒนาระบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์  ว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีศักยภาพและความเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จในเวลาที่กำหนดอย่างมาก เนื่องจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้วางขั้นตอนเอาไว้ในการเข้าสู่ความเป็นดิจิทัลอย่างถูกทาง โดยเริ่มต้นตั้งแต่การปรับวิธีคิดใหม่ การกำหนดเป้าหมาย และการแก้ไขร่างระเบียบต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานนั่นคือการวางโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ซึ่งจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ การคิดในเชิงเทคนิคต่าง ๆ ที่มีองค์ประกอบ การผสานความร่วมมือที่มีการรับผิดชอบกันโดยตรง อาทิ มาตรฐานของเอกสารที่ต้องมีความปลอดภัย หรือได้รับการยอมรับจากบุคคลภายนอก การให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงข้อมูลเอกสารดิจิทัลที่สามารถนำไปเชื่อมต่อกับหน่วยงาน     อื่น ๆ ได้ ซึ่งทางสำนักงานพัฒนาดิจิทัลได้เข้ามาช่วยเหลือในประเด็นนี้ด้วย

“ประทับใจมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่ทำให้เห็นถึงทิศทางในการทำงานที่วางขั้นตอนไว้อย่างชัดเจน ตั้งแต่เรื่องง่าย ๆ อย่าง การสร้างการยอมรับกับบุคลากรภายในมหาวิทยาลัย การกำหนดแนวทางให้เป็นการทำหน้าที่ของบุคลากรทุกคน สิ่งนี้ถือเป็นปัจจัยที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ ท้ายที่สุดเมื่อทุกอย่างครบองค์ประกอบจะได้รับการยอมรับ เนื่องจากว่าเราเข้าสู่โลกดิจิทัลที่จะทำให้บุคลากรทำงานง่ายขึ้น นักศึกษาไม่ต้องไปจัดเก็บเอกสารแล้วเอกสารหาย สามารถที่จะเรียกจากฐานข้อมูลนำมาใช้ได้ เมื่อระบบนี้ประสบความสำเร็จก็จะขยายผลไปสู่งานอื่น ๆ ที่เราต้องปรับตัวให้เข้าสู่ความเป็นดิจิทัลต่อไปในอนาคต”  นางอารีย์พันธ์ กล่าว

            ทั้งนี้มหาวิทยาลัยขอนแก่นและคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ได้แสดงออกถึงความร่วมมือต่อการนำเสนอแนวทาง อุปสรรคของการดำเนินการ และการพัฒนาระบบดิจิทัล  เพื่อที่จะทำให้เอกสารหรือหลักฐานต่าง ๆ ที่อยู่ในรูปแบบของกระดาษมาเป็นเอกสารดิจิทัล ที่จะทำให้ง่ายต่อการจัดเก็บและการเชื่อมต่อข้อมูลที่มีความสะดวก รวดเร็ว เท่าทันยุคสมัยในปัจจุบัน ซึ่งหากสำเร็จจะเป็นองค์กรนำร่องสู่สถาบันการสึกษาอื่น ๆ หรือหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อยกระดับประเทศให้เข้าสู่ความเป็นสากล

มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ให้ความสำคัญในการประชุมครั้งนี้ โดยเชิญ ผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง รับฟังนโยบายร่วมขับเคลื่อนงานร่วมกัน  ประกอบด้วย ผศ.ดร.พิพัธน์ เรืองแสง ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนามหาวิทยาลัยดิจิทัล
ผศ.ดร.ภัทรวิทย์ พลพินิจ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายทรัพยากรบุคคล  ผศ.ณัฐพัชญ์ อนันต์ธีระกุล ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายการศึกษา  ดร.กิตติ์ เธียรธโนปจัย ผู้อำนวยการสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ   นายธัญญา ภักดี ผู้อำนวยการกองบริหารงานกลาง  นางเพียงเพ็ญ ภาคอุทัย ผู้อำนวยการสำนักงานอธิการบดี   นายสถิตย์ แก้วบุดตา ผู้อำนวยการกองทรัพยากรบุคคล  และนางเนตรดาว จำเริญดารารัศมี ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ

ข่าว :  จิราพรประทุมชัย / วนิดา บานเย็น

ภาพ :  สรายุทธ ขินหนองจอก

นักศึกษาฝึกประสบการณ์ กองสื่อสารองค์กร