กล้อง AI จับ ‘ขับเร็ว-ไม่สวมหมวก’ ได้ผล! ดันรัฐต่อยอดนโยบายลด “ตาย” อุบัติเหตุ . ในแต่ละปีมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ และการชนบนถนนไทยกว่า 20,000 ราย การนำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพ การตรวจจับและบังคับใช้กฎหมาย นำร่องใน 3 จังหวัด

สำนักข่าว : เพจ Mono29 News – ข่าวโมโน29

URL : 

https://www.facebook.com/188107458258082/posts/1288153448253472

วันที่เผยแพร่ : 29 มี.ค. 2564

กล้อง AI จับ ‘ขับเร็ว-ไม่สวมหมวก’ ได้ผล! ดันรัฐต่อยอดนโยบายลด “ตาย” อุบัติเหตุ . ในแต่ละปีมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ และการชนบนถนนไทยกว่า 20,000 ราย การนำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพ การตรวจจับและบังคับใช้กฎหมาย นำร่องใน 3 จังหวัด

กล้อง AI จับ ‘ขับเร็ว-ไม่สวมหมวก’ ได้ผล! ดันรัฐต่อยอดนโยบายลด “ตาย” อุบัติเหตุ

.

ในแต่ละปีมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ และการชนบนถนนไทยกว่า 20,000 ราย การนำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพ การตรวจจับและบังคับใช้กฎหมาย นำร่องใน 3 จังหวัด คือ เชียงใหม่ ขอนแก่น และภูเก็ต จึงเป็นตัวช่วยสำคัญในการลดแรงปะทะ ระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ฝ่าฝืนกฎจราจร อีกทั้งยังช่วยปรับพฤติกรรมการขับขี่ ให้ปฎิบัติตามกฎหมายมากขึ้นในระยะยาว โดยเฉพาะการใช้ความเร็ว ฝ่าไฟแดง และไม่สวมหมวกกันน็อค

.

ติดกล้องเดือนเดียว “คนเชียงใหม่” สวมหมวกกันน็อคเพิ่ม 20%

.

‘นพ.ธีรวุฒิ โกมุทบุตร’ ผู้เชี่ยวชาญ สอจร.เชียงใหม่ กล่าวว่า อุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ของเชียงใหม่ กว่า 70% เกิดขึ้นในเวลากลางคืน เพราะผู้ขับขี่สวมหมวกกันน็อคน้อยกว่ากลางวัน เนื่องจากไม่มีตำรวจบนท้องถนน โดยเฉพาะหลัง 20.00 น. อัตราสวมหมวกกันน็อคในเขตเมือง ลดลงเหลือเพียง 52% ในขณะที่ค่าเฉลี่ยอำเภอใกล้เคียงต่ำกว่ามาก เหลือเพียง 12% เท่านั้น

.

จากการติดตั้งกล้องอัจฉริยะระบบ AI ตรวจจับตลอด 24 ชม. ในระยะนำร่องตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2563 ที่ผ่านมา ทั้งหมด 16 จุด ได้แก่ ในเขต อ.เมือง 8 จุด และอีก 4 พื้นที่ใกล้เคียงใน อ.สันทราย อ.สารภี อ.หางดง และ อ.แม่ริม แห่งละ 2 จุด พบว่า ผ่านไปเพียงหนึ่งเดือน ชาวเชียงใหม่สวมหมวกกันน็อคเพิ่มขึ้นถึง 20% ในทุกจุด โดยในแยกสำคัญ เช่น แยกรินคำ อัตราสวมหมวกโดยรวมอยู่ที่ 90% ส่งผลให้ช่วงปีใหม่ 2564 ยอดตายจากอุบัติเหตุทั้งจังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่เกิดกับผู้ใช้มอเตอร์ไซค์ ลดลงถึงครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว

.

“แม้หมวกกันน็อคจะไม่ใช่อุปกรณ์วิเศษ ที่เมื่อสวมใส่แล้วจะไม่เกิดอุบัติเหตุเลย แต่ก็สามารถช่วยลดและป้องกันการบาดเจ็บที่หัว อวัยวะสำคัญของคนเราให้ปลอดภัยได้ เนื่องจากตามสถิติอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ กว่า 80% ของผู้เสียชีวิต มีสาเหตุมาจากการบาดเจ็บที่ศีรษะ” นพ.ธีรวุฒิ กล่าว

.

นักซิ่ง “ชาวขอนแก่น” ใช้ความเร็วลดลงเกินครึ่ง!

.

‘ดร.เจษฎา คำผอง’ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า แต่ละวันจะมีคนเมืองขอนแก่น อย่างน้อย 1-2 คน ที่กลับบ้านในสภาพไม่เหมือนเดิม สาเหตุเกิดจากอุบัติเหตุและการชนบนถนน ขอนแก่นจึงผลักดันมาตรการ “เขตขับขี่ปลอดภัย 14 กม. ลดความเร็ว ลดความตาย” บนถนนมิตรภาพ ในเขตตัวเมืองขอนแก่น แต่ด้วยข้อจำกัดของกำลังเจ้าพนักงาน จึงนำระบบกล้องตรวจจับความเร็วอัตโนมัติ เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมความเร็วตลอด 24 ชม. ซึ่งผลการประเมินหลังใช้มาตรการนี้ พบว่า ผู้ใช้ความเร็วเกิน 80 กม./ชม. ลดลง 44% ส่วนผู้ใช้ความเร็วเกิน 100 กม./ชม. ลดลงมากถึง 52%

.

ไม่เพียงพฤติกรรมการใช้ความเร็วเท่านั้น เพราะหลังดำเนินมาตรการ 9 เดือน ยังทำให้ตัวเลขของผู้ฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง โดยรวมลดลงถึง 60% แบ่งเป็น รถจักรยานยนต์ลดลง 62% รถยนต์ส่วนบุคคลลดลง 68% รถบัสลดลง 25% รถพ่วงลดลง 80% และรถโดยสารลดลง 17% ขณะที่อัตราการสวมหมวกนิรภัยเพิ่มขึ้นจาก 77% เป็น 81%

.

“จากการประเมินอุบัติเหตุแยกที่มีการติดตั้งกล้อง พบว่า จำนวนอุบัติเหตุโดยรวมลดลงถึง 22% ผู้บาดเจ็บลดลง 16% เซฟชีวิตได้ถึง 50% และอีกหนึ่งความสำเร็จ ก็คือทัศนคติของประชาชน ต่อการเคารพกฎจราจรเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น หลังมีการปรับใช้อย่างจริงจัง” ดร.เจษฎา กล่าว

.

กล้องภูเก็ต เซฟชีวิต-ลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ 62 ล้าน

.

‘รศ.ดร.มงคล เอกปัญญาพงศ์’ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย สรุปภาพรวมว่า หลังการติดตั้งกล้องตรวจจับ และระบบเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ในงานจราจร พบว่า จำนวนอุบัติเหตุในจุดติดตั้งลดลง โดยอ้างอิงข้อมูลจาก ThaiRSC ในรัศมี 1 กม. จากจุดที่ติดตั้งกล้อง ตัวเลขผู้เสียชีวิตลดลง 26% จาก 50 ราย ลดลง 37 ราย ช่วงปี 2560 – 2561 ซึ่งหากเปรียบเทียบความคุ้มค่าแล้ว คิดเป็นมูลค่าที่ลดลงจากการสูญเสียกว่า 62 ล้านบาท ขณะที่มูลค่าในการติดตั้งระบบกล้องตรวจจับอัตโนมัติ 5 จุด ใช้งบประมาณเพียง 16 ล้านบาท

.

>> https://mono29.com/prnews/327295.html

Scroll to Top